1. /
    หมวดหมู่สินค้าทั้งหมด
  2. /
    รถกระบะ
  3. /
    MAZDA (มาสด้า)
  4. /
    BT-50
  5. /
    ตัวถังรถกระบะ
รับซื้อรถต้อง Truck2Hand
web-beacon-pixel

รถกระบะ MAZDA (มาสด้า) BT-50 ตัวถังรถกระบะ มือสอง

หมวดหมู่สินค้า

ยี่ห้อ

รุ่น

จังหวัด ที่อยู่สินค้า

พื้นที่ยอดนิยม

ชนิดรถกระบะ

ปีที่จดทะเบียนครั้งแรก

-

เลขไมล์ การใช้งาน

-

ช่วงราคา (บาท)

-

สถานะประกาศ

ประเภทประกาศ

ประกาศมาใหม่

กำลังขาย (0)

ขายแล้ว (0)

not-found-result

ไม่พบผลลัพธ์

ไอเดียสร้างรายได้จาก รถกระบะมือสอง

ในภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่อยู่ในขณะนี้  หลายๆอาชีพก็ได้รับผลกระทบอย่างหนัก ทำให้หลายคนต้องพยายามปรับตัวหารายได้เพิ่มมากขึ้นเพื่อความอยู่รอด  ในช่วงเวลานี้ใครที่มีรถ รถก็ช่วยคุณได้ นอกจากซื้อมาใช้งานแล้ว ก็สามารถนำมาสร้างรายได้ให้กับเราได้ด้วย อย่างที่ทราบกันว่าคนไทยนิยมใช้รถกระบะค่อนข้างเยอะ ไม่ว่าจะเป็น รถกระบะมือหนึ่ง หรือ รถกระบะมือสอง 

วันนี้ ทาง Truck2hand ก็มีไอเดียสร้างรายได้จากรถกระบะมือสองมาแนะนำ เพื่อเป็นอีกช่องทางในการสร้างรายได้ให้กับหลายท่านที่กำลังมองหาช่องทางการเพิ่มรายได้ ลองมาดูกันนะคะว่ามีช่องทางไหนน่าสนใจบ้าง

5 ไอเดียสร้างรายได้จาก รถกระบะมือสอง

1.รถพุ่มพวง 

สำหรับรถพุ่มพวงก็เป็นอีกหนึ่งไอเดียที่น่าสนใจ กับช่วงสถานการณ์โควิดที่ระบาดอยู่ทำให้คนไม่อยากออกไปจ่ายตลาด และหันมาซื้อของกับรถที่เข้ามาบริการถึงในซอยบ้าน  รถพุ่มพวงส่วนใหญ่สินค้าที่นำมาขายจะเป็นของกิน สินค้าอุปโภคและบริโภค เน้นเข้าไปขายในซอยที่ร้านสะดวกซื้อเข้าไม่ถึง บริการถึงหน้าบ้าน หากเราวิ่งขายตามแหล่งชุมชุนหรือย่านที่พักอาศัยเยอะๆ ก็มีโอกาสที่จะทำรายได้จากรถพุ่มพวงได้แน่นอน 

รถกระบะมือสอง

2.รถรับจ้างขนของ 

ก็เป็นอีกอาชีพเสริมที่สร้างรายได้นอกจากงานประจำได้ เหมาะสำหรับผู้ที่ทุนน้อย แต่มีรถกระบะอยู่แล้ว ยิ่งถ้าเป็นรถกระบะตอนเดียวและมีคอกด้านหลังสูงๆ ก็จะเหมาะกับการขนของ รับจ้างขนย้ายบ้าน ย้ายหอพัก ย้ายสำนักงาน  ถ้าเรามีความชำนาญในการรื้อและประกอบได้ก็ยิ่งเพิ่มรายได้มากขึ้นด้วย  การหางานต้องต้องมีการลงโฆษณาในสื่อโซเชียลทั้งทาง facebook  IG Line เพื่อให้ลูกค้ารู้จักเรา รวมไปถึงทำป้ายหรือสติกเกอร์ติดที่รถ พร้อมเบอร์ติดต่อให้ชัดเจน  

3.รับผลไม้ตามฤดูกาลมาขาย

การรับผลไม้ตามฤดูกาลมาขายก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่ได้รับความนิยมมากของรถเร่ขายของ ผลไม้มีให้เลือกมาขายได้ทั้งปีขึ้นอยู่กับฤดูกาล แต่ผลไม้เป็นของที่เน่าเสียง่าย  ดังนั้นเราต้องเน้นขายให้เร็ว ราคาไม่แพง หากเราไปรับจากสวนมาขายต้นทุนก็จะถูกกว่าการรับจากพ่อค้าคนกลางมาขาย ผลไม้ก็สดและอร่อยกว่า  ถ้าเป็นช่วงนี้ ผลไม้ที่ออกมากที่สุดน่าจะเป็นพวก ทุเรียน เงาะ ลองกอง มังคุด เราต้องเน้นขายผลไม้ที่คนนิยมรับประทาน  ใส่ท้ายรถเร่ขายตามหมู่บ้าน ตามตลาดนัด แหล่งชุมชน  ข้อดีคือไม่ต้องเช้าแผงขาย แต่อาจจะเปลืองน้ำมันเมื่อต้องขับไปเร่ขาย  

รับผลไม้ตามฤดูกาลมาขาย

4.สมัครเป็น พาร์ทเนอร์กับบริษัทขนส่ง

ปัจจุบันมีแอปพลิเคชั่นหารถขนส่งสินค้าเกิดขึ้นค่อนข้างเยอะ  ซึ่งแอปเหล่านี้จะเป็นตัวกลางในการเชื่อมต่อระหว่างลูกค้ากับผู้ขับ  พาร์ทเนอร์ผู้ขับจะต้องใช้แอปวิ่งงานสำหรับผู้ขับโดยเฉาพในการวิ่งรับลูกค้า  จะมีทั้งแบบประจำและชั่วคราว ขึ้นอยู่กับผู้ขับว่าสะดวกแบบไหน หากต้องการสมัครก็สามารถค้นหาแอปที่ต้องการแล้วทำการดาวน์โหลด แล้วดำนเนินการสมัครได้เลยค่ะ เป็นอีกช่องทางในการหารายได้เพิ่มที่น่าสนใจเลยทีเดียวค่ะ

5.ขายของเบ็ดเตล็ด รถกระบะมือสอง

การขายของเบ็ดเตล็ด พวกของใช้ในชีวิตประจำวัน อุปกรณ์ทำความสะอาดในบ้าน และอื่นๆ  โดยการขับเร่ขายไปตามแหล่งชุมชน ก็เป็นอีกช่องทางหนึ่งในการหารายได้จากรถยนต์ที่มีอยู่ แต่อาจจะได้รายได้ไม่ได้เยอะมาก เนื่องจากตอนนี้การขายของออนไลน์ก็ค่อนข้างเยอะ สะดวกต่อผู้ที่เล่นโซเชียล แต่สำหรับคนที่ไม่เล่นโซเชียลหรือไม่มีเวลารวมไปถึงตามไซต์งานก่อนสร้าง อาจจะเป็นกลุ่มเป้าหมายที่น่าสนใจ 

 รถกระบะขายของเบ็ดเตล็ด

เป็นยังไงบ้างคะ สำหรับไอเดียการสร้างรายได้จาก รถกระบะ ของเรา มีช่องทางไหนที่พอจะนำไปใช้ได้บ้างคะ ไอเดียที่แนะนำจะเหมาะกับคนที่มีรถอยู่แล้ว แต่หากใครที่ต้องการหาซื้อ รถกระบะมือสอง เพื่อใช้งานและหารายได้เสริมด้วย  ทาง Truck2hand ก็มีรถกระบะราคาดีมานำเสนอด้วยเช่นกันค่ะ ลองมาดูกันเลยค่ะ ที่ รถกระบะมือสอง

เพื่อไม่ให้พลาดข่าวสารดีๆจากเราอย่าลืมแวะเข้ามาดู Blog ของเราบ่อยๆกันนะคะ

แหล่งที่มาข้อมูล : 

https://hobinvest.com/10-อาชีพเสริม-รวยได้

www.busandtruckmedia.com

http://www.thaismescenter.com

https://news.mthai.com/general-news/770326.html

https://www.tnews.co.th/social/529721

https://www.truck2hand.com/category/cat_pickup/

ตรวจสอบรถมือสองอย่างไร ?

1. ตรวจสอบเล่มทะเบียน .. ว่าข้อมูลตรงกับตัวรถหรือไม่
2. เช็คตัวถังของรถรอบคัน .. เพื่อหาร่องรอยการซ่อมแซมที่อาจจะเกิดจากอุบัติเหตุ
3. ตรวจสอบการทำงานของอุปกรณ์ต่างๆ .. เช่น อุปกรณ์ไฟฟ้า แอร์ แผงคอนโทรลต่างๆ รวมถึงกลิ่นภายในรถ ว่าผิดปกติหรือไม่
4. เช็คระดับของเหลวในห้องเครื่อง .. ว่ามีการรั่วซึม หรือ ร่องรอยการรั่วซึมหรือไม่
5. ตรวจสอบการสึกหรอคร่าวๆของช่วงล่าง .. ซึ่งอาจจะเห็นไม่ชัดเจนนัก แต่ก็สามารถพอจะดูการสึกหรอและประเมินค่าซ่อมแซมหลังจากตกลงซื้อได้ระดับนึง
6. ทดสอบขับจริง .. เป็นวิธีที่จะตรวจสอบสภาพและอาการของรถได้ชัดเจนที่สุด