1. /
    หมวดหมู่สินค้าทั้งหมด
  2. /
    ของมือสอง อื่นๆ
เหรียญทรงผนวช ปี ๒๕๑๗
เหรียญทรงผนวช ปี ๒๕๑๗
เหรียญทรงผนวช ปี ๒๕๑๗
เหรียญทรงผนวช ปี ๒๕๑๗
เหรียญทรงผนวช ปี ๒๕๑๗
เหรียญทรงผนวช ปี ๒๕๑๗
฿ 3,500

เหรียญทรงผนวช ปี ๒๕๑๗

กรุงเทพ

รายละเอียดสินค้า

หมวดหมู่หลัก
ของมือสอง อื่นๆ

จังหวัดที่ตั้งสินค้า

ข้อมูลเพิ่มเติม

เหรียญทรงผนวช ปี ๒๕๑๗

ให้เช่าเหรียญทรงผนวช ปี ๒๕๑๗ จัดสร้างโดยกองทัพภาคที่ ๓ เหรียญเก่าเก็บ แท้รับประกันครับ เปิดราคา ๓,๕๐๐ บาท หายากสุดๆเลยตอนนี้ โทร 080 331 2797

วัตถุประสงค์การจัดสร้าง

วัตถุมงคลชุดนี้เป็นวัตถุมงคลที่มีอายุการสร้างกว่า 42 ปี ที่ถึงพร้อมด้วย “พระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณและพระมหากษัตริยาธิคุณ” ครบถ้วนทุกด้านเพราะ “มูลเหตุแห่งการสร้าง” ดีเยี่ยมคือ สร้างเพื่อนำรายได้ช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ทั้ง “ทหาร ตำรวจ” และ “อาสาสมัคร” ที่ปฏิบัติหน้าที่ทำการปราบปราม “ผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์” ซึ่งหลายครั้ง “เจ้าหน้าที่” ดังกล่าวได้รับบาดเจ็บจากการปะทะกันซึ่งหน้าและหลายรายที่ “โชคร้าย” ต้อง “ทุพพลภาพ” และ “เสียชีวิต”สร้างความเดือดร้อนให้กับ “ครอบครัว” ของเจ้าหน้าที่เหล่านี้


คณะกรรมการได้กราบบังคมทูลขอพระราชทานพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ทรงประกอบพิธีเททองหล่อวัตถุมงคลทั้งหมดเป็น “ปฐมมหามงคลฤกษ์” เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2516 เวลา 16.49 น. โดยบันทึกการจัดสร้างได้บันทึกไว้ว่า

ขณะพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงประกอบพิธีเททอง ณ บริเวณมณฑลพิธีด้านข้างพระอุโบสถ อากาศก็ร่มเย็นแจ่มใสให้ผู้ไปร่วมพิธีและพสกนิกรที่ไปเข้าเฝ้าครั้งนั้น เย็นสบายโดยทั่วกัน แต่ขณะเดียวกันกลับปรากฎเหตุ “ท้องฟ้าทางภาคเหนือ” (ตรงจุดที่ตั้งกองทัพภาคที่ 3) เกิดมี “ฟ้าแลบฟ้าร้อง” ดังสนั่นหวั่นไหวอยู่ตลอดเวลา กระทั่งพิธีเททองเสร็จสิ้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จฯ กลับแล้ว “ฟ้าแลบฟ้าร้อง” จึงสงบลงและพอถึงเวลา 17.55 น. “พระวิสุทธิวงศาจารย์” (เสงี่ยม จันทสิริ มหาเถระ) เจ้าอาวาสวัดสุทัศน์ฯ ในขณะนั้น (ภายหลังได้รับพระราชทานสถาปนาเป็นสมเด็จ พระราชาคณะที่สมเด็จพระพุฒาจารย์) ดับเทียนชัยพิธีพุทธาภิเษกแล้ว ยังได้มอบเงิน “5,000 บาท” เพื่อสมทบทุนมูลนิธิ “เย็นศิระเพราะพระบริบาล” อีกด้วยพร้อมๆ กับ “สายฝน” ได้ตกลงมาอย่างหนักจนน้ำนองรอบๆ ระเบียบพระอุโบสถทั้งๆ ที่บริเวณอื่นๆ ที่อยู่ใกล้เคียง “วัดสุทัศน์ฯ” กลับมีฝนตกเพียงประปรายเท่านั้น นับเป็นเหตุการณ์ที่ “ประหลาดอัศจรรย์” แก่ผู้ไปร่วมพิธีโดยทั่วหน้ากัน ซึ่ง “วัตถุมงคล” ที่จัดสร้างทั้งหมดประกอบด้วย

“พระพุทธรูปพระพุทธชินราชจำลอง พระกริ่งพระพุทธชินราช ภ.ป.ร. เหรียญพระพุทธชินราช ภ.ป.ร. เหรียญทรงผนวช เหรียญสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เหรียญสมเด็จพระเอกาทศรถ รูปเหมือนเต็มองค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช” และ “สมเด็จพระเอกาทศรถ” และการจัดสร้างวัตถุมงคลรุ่นนี้นั้นก็ใช้ระยะเวลาที่ยาวนานคือ ต้องนำ “วัตถุมงคล” ทั้งหมดไปทำการตกแต่งเพื่อความสวยงาน “ร่วม 1 ปี” จึงแล้วเสร็จจากนั้น พลโท สำราญ แพทยกุล แมทัพกองทัพภาคที่ 3 จึงได้อัญเชิญไปประกอบพิธีพุทธาภิเษก ณ พระวิหารหลวง พระพุทธชินราช วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จังหวัดพิษณุโลก เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2517 โดยสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (วาสนมหาเถระ) วัดราชบพิตรสถิตมหาสีมาราม ทรงประกอบพิธีจุดเทียนชัยมหาพุทธาภิเษกและมี “พระคณาจารย์ผู้ทรงวิทยาคุณ” ร่วมพิธีพุทธาภิเษาจำนวน 45 รูป อาทิ “พระภาวนาโกศลเถระ วัดปากน้ำภาษีเจริญ พระโพธิวรคุณ (ไพฑูรย์) วัดโพธิ์นิมิต พระราชมุนี (มหาบุญโฮม) วัดปทุมวนาราม พระสังวรวิมลเถระ (หลวงปู่โต๊ะ) วัดประดู่ฉิมพลี พระครูพิพิธวิหารการ (หลวงพ่อเทียม) วัดกษัตราธิราช พระครูรักขิตวันมุนี (หลวงพ่อถิร) วัดป่าเลไลยก์ พระครูญาณวิจักษ์ (พระอาจารย์ผ่อง จินดา) วัดจักรวรรดิราชาวาส พระครูนนทกิจวิมล (หลวงพ่อชื่น) วัดตำหนักเหนือ พระครูกิตตินนทคุณ (หลวงพ่อกี๋) วัดหูช้าง พระครูโกวิทสมุทรคุณ (หลวงพ่อเนื่อง) วัดจุฬามณี พระครูสุตาธิการี (หลวงพ่อทองอยู่) วัดใหม่หนองพะอง ฯลฯ”

ทางด้าน “โลหะ” ที่นำมาสร้างวัตถุมงคลครั้งนั้นประกอบด้วย “แผ่นทองแดงและแผ่นทองเหลืองลงอักขระยันต์” โดยพระคณาจารย์ผู้ทรงวิทยาคุณในยุคนั้นทั่วประเทศ “108 รูป” ซึ่งแต่ละรูปก็ทำการลงอักขระยันต์ตาม “ความถนัดของแต่ละท่าน” แล้วจึงอธิษฐานจิตและภาวนาปลุกเสกเพิ่มเติมใน “วันเสาร์ 5” ซึ่งปีนั้นตรงกับ “วันเสาร์ที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2516” เพื่อนำมาหล่อหลอมกับ “ทองคำ นาก เงิน ทองเหลือง ทองแดง” ที่คณะกรรมการจัดสร้างเตรียมไว้ จากนั้น ยังจัดทำพิธีปลุกเสกเพิ่มความเข้มขลังตามวัดต่างๆ ใน “กรุงเทพมหานคร” อีกถึง 4 วัด ดังนี้ 1) วัดบวรนิเวศวิหาร 2) วัดสุทัศนเทพวราราม 3) วัดไตรมิตรวิทยาราม 4) วัดราชนัดดาราม นอกจากนี้ยังมี “ชนวนโลหะ” จากพิธีสำคัญๆ เช่น “พิธีสร้างพระบรมรูป “สมเด็จพระเอกาทศรถ” ที่กรมศิลปากรเป็นผู้ดำเนินการจัดสร้าง ชนวนโลหะหล่อพระบรมรูป “พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล รัชกาลที่ 8” สำหรับประดิษฐานภายในบริเวณ “พระวิหารพระศรีศากยมุณีวัดสุทัศน์” และชนวนโลหะ “พระกริ่งพระชัยวัฒน์ อ.ป.ร.” และทองชนวน “เหรียญพระศรีศากยมุณี อ.ป.ร.” ของมูลนิธี “อัฎฐมราชานุสรณ์” ที่วัดสุทัศน์ดำเนินการจัดสร้าง ชนวนโลหะหล่อ “พระกริ่ง” รุ่นเก่าๆ ของวัดสุทัศน์ โดยคณะกรรมการนำชนวนโลหะทั้งหมดหล่อหลอมเป็นเนื้อเดียวกันสร้างเป็นวัตถุมงคลตั้งแต่ “รายการที่ 1-6” และนำเข้าพิธีพุทธาภิเษกและมังคลาภิเษกอีกครั้งอย่างยิ่งใหญ่ ณ พระอุโบสถวัดสุทัศน์ฯ ระหว่างวันที่ 22-24 กรกฎาคม พ.ศ. 2516 จึงมั่นใจได้ว่าวัตถุมงคลที่จัดสร้างโดย “กองทัพภาคที่ 3” ชุดนี้มีความเข้มขลังยิ่งเพราะนอกจากมีการจัดพิธีสร้างเป็นไปตาม “โบราณประเพณี” ทุกประการแล้ว ยังอัญเชิญ “ตราสัญลักษณ์พระปรมาภิไธยย่อ ภ.ป.ร.” ประดิษฐานที่ฐานผ้าทิพย์ “พระพุทธชินราชจำลอง” และ “พระกริ่ง” เพื่อความเป็นสิริมงคล
แก้ไขล่าสุดเมื่อ : 19/4/65สร้างเมื่อ : 20/11/59เลขที่ประกาศ :5YlKkbVdl7
L1
web-beacon-pixel
อภิชิต
Open WebsiteOpen FacebookOpen YouTubeOpen InstagramOpen TikTok
web-beacon-pixel