แว่นสายตา เรย์-แบน แสนสะท้าน ยูเอสเอ ตัวแท้ งานสร้างระดับตำนานแห่งทศวรรษสุดท้าย-1990s ของ บอสช์ แอนด์ ลอมบ์ โมเดลคลาสสิค ไฮสตรีท–วงรี สนธิกำลังกับโคตรเลนส์กระจกพระเจ้าเยอรมัน-ญี่ปุ่น เพนแทกซ์-คาร์ล ไซส์ เยนา ค่าสายตา +175 บานพับสปริงหลัง ขนาดฟรีไซซ์ 132mm Vintage BL RAY-BAN handmade in Rochester USA

□■□■□■□■□
'เรย์–แบน แสนสะท้าน'
การเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป ของแว่นตาอเมริกันที่เกรียงไกรที่สุดในศตวรรษที่ ๒๐¹

ปี ค.ศ.1936
หลังการค้นคว้าวิจัยยาวนานถึง 7 ปี (ค.ศ.1929–1936)
'บอสช์ แอนด์ ลอมบ์' (Bausch & Lomb) ผู้ผลิตแว่นตาเก่าแก่ลำดับที่ 5 ของสหรัฐอเมริกา² ผลิตแว่นตานักบินตัวแรกให้แก่กองทัพอากาศอเมริกัน โดยมีจุดประสงค์เพื่อป้องกันอันตรายจาก 'แสงสีฟ้า' (Blue Light) บนท้องฟ้า ที่เป็นผลร้ายต่อดวงตาของนักบิน สำเร็จขึ้นเป็นครั้งแรก

มันดูเหมือนแว่นตากรอบพลาสติกธรรมดา ๆ แต่เลนส์สีเขียวป้องกันแสงสะท้อน (Anti–Glare Green Lenses) ที่ติดมากับแว่นตานั้นสิ ศักยภาพสูง ขจัดแสงสีฟ้าบนท้องฟ้าได้อย่างทรงประสิทธิภาพ

สองปีถัดมา ค.ศ.1938 แว่นตานักบินกรอบโลหะตัวแรกก็อุบัติขึ้น 'บอสช์ & ลอมบ์' จดสิทธิบัตรในนาม 'Ray–Ban Aviator' ซึ่งภายหลังรู้จักกันในนามอันอุโฆษณ์ว่า 'เรย์–แบน ชูทเตอร์ แมคอาร์เธอร์'

(คนไทยเรียกว่า 'เรย์–แบน ศูนย์ใหญ่' หรือ 'เรย์–แบน ตี๋ใหญ่' ; คนอเมริกันรุ่นเก๋า เรียก 'เรย์–แบน มวนบุหรี่' / Ray - Ban Cigarette Circle)

ค.ศ.1939 แว่นตา 'ผู้ชายกลางแจ้ง' (Ray-Ban Outdoorsman) คือพัฒนาการอีกขั้นหนึ่ง ปรากฏโฉมพร้อมนวัตกรรมเล็ก ๆ แต่ยิ่งใหญ่ 'คานบนประดับงา' เพื่อสกัดแสงอาทิตย์ในทิศทางสูง มิให้ส่องกระทบถึงดวงตาผู้สวมใส่

ค.ศ. 1944 เมื่อ นายพลดักลาส แมคอาร์เธอร์ (General Douglas MacArthur) แม่ทัพใหญ่ฝ่ายสัมพันธมิตรแห่งสงครามโลกครั้งที่ 2 สวมใส่ 'เรย์-แบน อะเวียเตอร์' ขณะนำกำลังยกพลขึ้นบกที่อ่าวเลย์เต ประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งนับเป็นจุดเริ่มต้นแห่งการคว้าชัยให้ฝ่ายสัมพันธมิตร

เมื่อภาพข่าวสงครามถูกตีพิมพ์ออกไป แว่นตารุ่นนี้ก็ได้รับขนานนามในเวลาต่อมาว่า...'เรย์–แบน แมคอาร์เธอร์'

แว่นตาแนว 'นักบิน' (Aviator) ของ 'เรย์–แบน' เถลิงความสำเร็จยาวนานถึง 13 ปี

ก่อนจะยืนยันความยิ่งใหญ่อีกหลาย ๆ ครั้งด้วย แว่นตาเรย์–แบน 'ผู้สัญจรบนหนทางไกล' (Ray - Ban Wayfarer) ในปี ค.ศ.1952 ; 'ตราลัญจกร' (Signet / 1953) ; 'กองเกวียนคาราวาน' (Caravan / 1957) ; 'ขุนเขาโอลิมเปียน' (Olympian / 1965) ; 'บาโลรามา' (Balorama / 1968) ; 'นักสำรวจ' (Explorer / 1970) ; 'หยดน้ำ' (Round Metal / 1972) ; 'นายกสโมสร' (Clubmaster / 1980) และอื่น ๆ อีกมาก

แต่หลักไมล์แท้จริงในโลกแห่งแว่นตากันแดด ถูกตอกย้ำด้วยกำปั้นของ 'เรย์–แบน' ตั้งแต่ ค.ศ.1957 แล้ว เมื่อ 'บอสช์ & ลอมบ์' พัฒนาศักยภาพเลนส์กระจกสีเขียว–เทา G–15 จนถึงขั้นสูงสุด ด้วยคุณสมบัติเยี่ยมยอด ไม่แปรเปลี่ยนสีจริงในธรรมชาติ ลดทอนความเข้มของแสงได้ถึง 85% ไร้เงา ป้องกันรังสี UV 100% ฯลฯ กระทั่งกลายเป็นบรรทัดฐานชี้วัดคุณภาพของเลนส์แว่นตากันแดดรุ่นต่อ ๆ มาตราบจนทุกวันนี้

ว่ากันตามจริง ยุคทองของ 'เรย์–แบน' อยู่ระหว่างห้วงทศวรรษ 1960's–1970's

แว่นตากันแดดคุณภาพสูงรูปแบบต่าง ๆ ของ 'เรย์–แบน' หลั่งไหลเหมือนสายน้ำ เฉพาะทศวรรษที่ '60s จำนวนมากถึง 30 โมเดล และในทศวรรษที่ '70s มากกว่า 20 โมเดล สร้างสถิติประวัติศาสตร์ที่ยังไม่มีใครเทียบเคียง !

แต่ที่น่าอัศจรรย์กว่านั้นก็คือ ทุก ๆ โมเดลของแว่นตา 'บี & แอล เรย์–แบน ยูเอสเอ' ผ่านการพิสูจน์แล้วด้วยกาลเวลา ถือเป็นงานอเมริกันแฮนด์เมดระดับ 'คลาสสิค' เป็น 'อมตะ' ไม่มีวันตาย !

ค.ศ.1999 โลกแห่งแว่นตาถึงกับสะเทือนเลื่อนลั่น 'บอสช์ & ลอมบ์' ขายลิขสิทธิ์ 'เรย์–แบน' ให้แก่ 'ลักซ็อตติกา' (Luxottica) กลุ่มธุรกิจแว่นตายักษ์ใหญ่จากอิตาลี ด้วยมูลค่า 640 ล้านดอลลาร์ (สองหมื่นสองพันสี่ร้อยล้านบาท)

ปิดฉากประวัติศาสตร์ 'บี แอนด์ แอล เรย์–แบน ยูเอสเอ' ไว้ ณ ศักราชสุดท้ายของศตวรรษที่ผ่านมานั้นเอง

แน่นอนละว่า 'บี แอนด์ แอล เรย์–แบน ไฮสตรีท–วงรี ยูเอสเอ' (Vintage B&L Ray–Ban Highstreet Oval made in USA) ตามประกาศนี้ คือผลงานสร้างสรรค์ระดับตำนานของ บอสช์ แอนด์ ลอมบ์ ยูเอสเอ.

เจ้าคุณทิพย์ : เขียน³
_________
¹ จากคอลัมน์ 'ปกิณกะแว่นตา บทที่ ๓ : เรย์–แบน แสนสะท้าน การเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป ของแว่นตาอเมริกันที่เกรียงไกรที่สุดในศตวรรษที่ ๒๐' ในเพจ : แว่นตา ของวินเทจ เจ้าคุณทิพย์
² ลำดับที่ 1. เอโอ อเมริกัน อ็อพติคัล : 1826 ; 2. อินวิกต้า วอทช์ : 1837 ; 3. โกดัก : 1844 ; 4. คอนนิง กลาส : 1851 ; 5. บอช แอนด์ บอมบ์ : 1853
³ ติดตามเรื่องราวหลากหลายเกี่ยวกับศิลปะและประวัติศาสตร์แว่นตาได้จากเพจ : แว่นตา ของวินเทจ เจ้าคุณทิพย์

** หมายเหตุ : หากข้อเขียนนี้ จะอำนวยประโยชน์ให้เกิดแก่สังคมและสาธารณชน ผู้เขียน 'เจ้าคุณทิพย์' ยินดีอย่างยิ่ง ทั้งนี้โดยธรรมเนียมปฏิบัติสากล คือ ลงเครดิตผู้เขียน และ ที่มาของงาน
แต่หากนำไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ โปรดแจ้ง และลงเครดิตผู้เขียน และ ที่มาของงาน

□■□■□■□■□

100% Authentic Vintage B&L RAY–BAN USA
Highstreet Series
W2839
OPBK
49 □ 19
Silver Chrome Metal Frame
Back Spring Hinge
Weight 36g
Classic Highstreet Metal Oval Model
Rare Beautiful PENTAX–CARL ZEISS JENA Crystal Lenses +175
UV Protection 100%
Handmade in the 1990's in Rochester, New York, USA

มือสอง
เรย์–แบน แสนสะท้าน ยูเอสเอ ตัวแท้ !
(Bausch & Lomb Ray–Ban USA)

★★★ แว่นตาอเมริกันที่เกรียงไกรที่สุดในศตวรรษที่ 20

★★★ รุ่น W2839 OPBK

★★★ งานสร้างระดับตำนานแห่งทศวรรษ 1990 ของ บอสช์ แอนด์ ลอมบ์ เรย์–แบน ยูเอสเอ โดยช่างฝีมือเมืองโรเชสเตอร์ ชาวอเมริกัน ชนชาติที่มีประวัติศาสตร์การสร้างแว่นตายาวนานถึง 196 ปี⁴

★★★ สนธิกำลังกับโคตรเลนส์กระจกพระเจ้าเยอรมัน–ญี่ปุ่น 'เพนแทกซ์–คาร์ล ไซส์ เยนา⁵' ผลงานจากความร่วมมือในทศวรรษ 1970 ระหว่างสองผู้ผลิตเลนส์เก่าแก่ 'อาซาฮี เพนแทกซ์' กับ 'คาร์ล ไซส์ เยนา⁶'
_________
⁴ เอโอ–อเมริกัน อ็อพติคอล (AO : American Optical) แว่นตาอเมริกันแบรนด์แรกก่อตั้งในเซาท์บริดจ์เมื่อ ค.ศ.1826
⁵ อาซาฮี เพนแทกซ์ (Asahi Pentax : 1919) และ คาร์ล ไซส์ เยานา (Carl Zeiss Jena : 1846) ร่วมมือกันอย่างเป็นทางการครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ.1952 ภายใต้นามว่า 'Asahi Carl Zeiss' เพื่อผลิตเลนส์กล้องถ่ายรูปคุณภาพสูง ต่อมาในปี 1972 จึงร่วมกันผลิตเลนส์กระจกแว่นสายตา
⁶ อ่านเรื่องราวได้จากคอลัมน์ 'ปกิณกะแว่นตา : ไซส์ (Zeiss) เดอะ เบสท์–ดีที่สุดตลอดกาลของชนชาติเยอรมัน' ในเพจ : แว่นตา ของวินเทจ เจ้าคุณทิพย์

■□■ สภาพเทพ / เก่าเก็บ / เหมือนแทบไม่เคยใช้งานมาก่อน !
★ ขนาดมาตรฐาน–ฟรีไซซ์ 132 mm
★ ขนาดเลนส์ 49 mm

■□■ องค์ประกอบทุกชิ้นส่วน ออริจินัล เดิม ๆ 100% ไม่เว้นแม้กระทั่งน็อตทุกตัว
★ ไม่มีชุบ ไม่มีเชื่อม ไม่มีซ่อม ไม่มีการดัดแปลงใด ๆ ทั้งสิ้น
★ องคาพยพทุกส่วนสมบูรณ์แบบ
★ สิริมายุ (เก่าเก็บ) 30 ปี
_________
■★■ พิเศษที่สุด*** : น้ำหนักกรอบและเลนส์กระจกคริสตัลรวมกันเพียง 36 กรัม ไม่หนัก สวมใส่เบาสบาย ■★■
_________

■□■ ดีไซน์ตามขนบโมเดลคลาสสิค 'ไฮสตรีท–วงรี' (Classic Highstreet Metal Oval Model) หนึ่งในรุ่นคลาสสิคของ เรย์–แบน ไฮสตรีทไลน์ (One of the classic of the Ray–Ban Highstreet Line) ซึ่งเป็นพัฒนาการขั้นตอนสุดท้ายของ ไซด์สตรีท (Side Street Line) ในห้วงทศวรรษ 1990

★★★ กรอบราชสีห์เงิน ของ 'บี แอนด์ แอล เรย์–แบน ยูเอสเอ' (B&L RAY–BAN USA's Silver Chrome Metal Frame) เท่แบบฝรั่ง ! สง่างาม ! บริสุทธิ์ผุดผ่อง ! ปราศจากริ้วรอย !

★★★ บานพับสปริงหลัง (Back Spring Hinge) ยืดหยุ่น นุ่มนวล เบาสบาย ไม่กดทับขมับ สวมใส่ได้กับทุกขนาดใบหน้า

★★★ ก้านขา (Temple) ข้างซ้ายด้านนอก สลักอักษรฟรีแฮนด์ 'Ray–Ban' บ่งบอกสถานะแว่นตาชัดเจน

■□■ ซุปเปอร์โบนัส *** : โคตรเลนส์กระจกพระเจ้าเยอรมัน–ญี่ปุ่น 'เพนแทกซ์–คาร์ล ไซส์ เยนา' (Rare Beautiful PENTAX–CARL ZEISS JENA Crystal Lenses +175) สำหรับผู้ที่สายตายาว +175 ชัดแจ๋ว ! ใสปิ๊งไร้ขีดจำกัด ! ศักยภาพสูงสุดในการพิทักษ์สายตา :
★ มัลติโค้ทตัดแสงสะท้อน
★ ป้องกันรังสี UV 100%
★ เคลือบผิวลื่น ป้องกันรอยขีดข่วนปกติ ทำความสะอาดง่าย
_________
★★★ สภาพเลนส์ซุปเปอร์นางฟ้า 100% สวมใส่ได้ทั้งกลางวันและกลางคืน ★★★
---------------

■□■ ความกว้างโดยรวม 132 mm (ขนาดมาตรฐาน–ฟรีไซซ์ / Standard–Free Size) ; ขนาดเลนส์ 49 mm ; ความสูงเลนส์ 37 mm ; ความยาวขา 140 mm

■□■ โอกาสทองฝังเพชร ! แว่นตาอเมริกันที่เกรียงไกรที่สุดในศตวรรษที่ 20 เรย์–แบน แสนสะท้าน ยูเอสเอ ตัวแท้ ! งานสร้างระดับตำนานในทศวรรษสุดท้าย-1990s ของ บอสช์ แอนด์ ลอมบ์ สนธิกำลังอย่างยิ่งใหญ่กับ โคตรเลนส์กระจกพระเจ้าเยอรมัน-ญี่ปุ่น 'เพนแทกซ์–คาร์ล ไซส์ เยนา' ค่าสายตา +175 ฟาดเปรี้ยงมาตรงหน้า ไม่รีบคว้าเอาไว้ จะเจ็บใจตัวเองนะ... สิบอกให้ !

★★★ คุณพระช่วย ! ไอ้แผน มันขายราคาตามประสาผู้ยิ่งเล็กเหมียน... เดิม !

★★★ 2,800 บาท (ราคาเน็ต / Net Price)

★★★ พร้อมกล่องฮาร์ดเคส และ ผ้าเช็ดแว่นไมโครไฟเบอร์ อีกต่างหาก !

★★★ สนใจติดต่อ : เจ้าคุณทิพย์ โทร 085 0200 633
★★★ หรือ Line ID : chaokuntip
★★★ หรือ เพจ : แว่นตา ของวินเทจ เจ้าคุณทิพย์
__________
★★★ หมายเหตุ : ภาพแว่นตาทั้งหมดในประกาศนี้ เป็นภาพถ่ายจริงในแสงธรรมชาติ ไม่มีการตกแต่งหรือดัดแปลงด้วยเทคนิคใด ๆ ทั้งสิ้น ★★★
——————

*** โปรดกดถูกใจ ติดตาม และกดแชร์ เพจ : แว่นตา ของวินเทจ เจ้าคุณทิพย์
*** ขอบคุณมากครับ

#แว่นตา #วินเทจ #เจ้าคุณทิพย์ #Vintage #Glasses #eyeglasses #Spectacle