




+4
แว่นตาฝรั่งเศสโกลด์ฟิลด์ 12 K ยุค '60s ล้ำค่า ! หายาก ! เก่าแก่และยิ่งใหญ่ระดับตำนาน ! โมเดลหล่อซาบซึ้ง 'หยดน้ำตา - นักบิน - แมคอาร์เธอร์' ไซซ์มาตรฐาน 142 mm Vintage MOREL handmade in France

กรุงเทพ
รายละเอียดสินค้า
- หมวดหมู่หลัก
- จังหวัดที่ตั้งสินค้า
- ปีที่จดทะเบียนครั้งแรกค.ศ. 2018 / พ.ศ. 2561
ข้อมูลเพิ่มเติม
'โมเรล' ก่อตั้ง ค.ศ.1880 หนึ่งในผู้ผลิตแว่นตาโกลด์ฟิลด์ทำมือที่ 'เก่าแก่' และ 'ดี' ที่สุดของฝรั่งเศส อลังการงานสร้างแห่งทศวรรษ 1960's โมเดล 'หยดน้ำตา - นักบิน - แมคอาร์เธอร์' เก่าเก็บ ! สภาพเทพ ! ทองโกลด์ฟิลด์ 12 K สัดส่วนทองคำบริสุทธิ์ 50 \% เลนส์กระจกกันแดดหายาก 'สีเขียวควันไฟ' ซุปเปอร์นางฟ้า 99\%+ ขนาดมาตรฐาน 141 mm ศิลปะแว่นตา 'โมเรล' ผลงานของเกษตรกรช่างฝีมือชาวฝรั่งเศส ฤดูหนาวที่หนาวเหน็บของภาคพื้นยุโรป มีผลกระทบอย่างยิ่งต่อวิถีชีวิตเกษตรกรในอดีต โดยเฉพาะแถบเทือกเขาจูรา (The Jura Mountains) บริเวณแนวพรมแดน สวิตเซอร์แลนด์ - ฝรั่งเศส เกษตรกรต่างก็หลบเร้นภัยหนาว ทุ่งหิมะขาวโพลนในฟาร์ม ฝูงวัวที่ถูกขังในคอก อุณหภูมิติดลบ ช่วงเวลากลางวันที่แสนสั้น หันไปทำงานอื่นชดเชยรายได้ที่สูญเสียไป ปลายศตวรรษที่ 19 ถึงต้นศตวรรษที่ 20 เกษตรกรชาวสวิสพากันใช้ช่วงเวลาฤดูหนาวประดิษฐ์นาฬิกา กระทั่งท้องถิ่นแถบ 'สวิส - จูรา' (Swiss Jura) ในปัจจุบัน ได้กลายมาเป็นศูนย์กลางนาฬิกาข้อมือของโลก ส่วนเกษตรกรฝรั่งเศส แน่นอน พวกเขาหันไปทำแว่นตา ! ณ บริเวณที่ราบสูง 'เลสรูสส์' (Les Rousses) แถบเทือกเขาจูรา (France - Jura) นี่เอง คือจุดกำเนิดของแว่นตาทำมือฝรั่งเศสที่ชื่อ 'โมเรล' (Morel) วันหนึ่งในปี ค.ศ.1880 ชายหนุ่มนามว่า 'จูเลส โมเรล' (Jules Morel) เป็นเกษตรกรที่มีอาชีพเสริมเป็นช่างไม้ร่วมกับบิดา ได้เห็นลูกพี่ลูกน้องที่ชื่อ 'ลูเซียน เพอร์ราด' (Lucien Perrad) กำลังประดิษฐ์แว่นตาในแบบ 'พินซ์ - เนซ' (Pince Nez : แว่นตาหนีบจมูกแบบโบราณ ไม่มีก้านขาคล้องใบหู) จากขดลวดทวิสติงไวร์ (Twisting Wire) ตามวิธีการของ 'ปิแอร์ ฮยาซินธ์ คาโซซ์' (Pierre - Hyacinthe Cazeauz) ปรมาจารย์ผู้ผลิตแว่นตาคู่แรกของฝรั่งเศส จูเลส โมเรล จ้องมองด้วยดวงตาเปล่งประกาย ณ นาทีนั้น เขาตัดสินใจแน่วแน่ จะไม่ทำงานช่างไม้กับบิดาในห้วงเวลาฤดูหนาวอันยาวนานอีกต่อไป แต่เขาจะทำแว่นตา ! ว่ากันว่า นี่คือจุดเริ่มต้นที่สุดแสนคลาสสิคของตำนานแว่นตา 'โมเรล' ธรรมชาติของ จูเลส โมเรล เป็นคนเรียบ ๆ สมถะ อดทน เขาทำอาชีพ 'เกษตรกรรม' ควบคู่กับทำ 'แว่นตา' ด้วยใจรัก โดยมีบุตรชายสองคน คือ 'เจอร์เมน' (Germaine) และ 'มาเรียส' (Marius) เป็นผู้ช่วยเหลือ แต่กระนั้น แว่นตา 'ทำมือ - ในบ้าน' ของเขา ก็ประสบผลสำเร็จเกินคาด เพียงแค่ปีแรก ก็มีคำสั่งซื้อจาก สวิสเซอร์แลนด์ และ เบลเยี่ยม โมเรลขี่จักรยานฝ่าหิมะระยะทางไกลถึง 40 กิโลเมตร ไปยังสถานีรถไฟใกล้ที่สุด เพื่อนำมันไปส่งด้วยตนเอง ธุรกิจแว่นตา (ฤดูหนาว) ของเขา ดำเนินไปในลักษณะ 'พอเพียง' ยาวนานนับสิบ ๆ ปี จนกระทั่ง ค.ศ.1932 'มาเรียส' บุตรชายคนโตก้าวเข้ารับช่วงต่อจากบิดา มันช่างแตกต่างอย่างสิ้นเชิง 'มาเรียส' ปรารถนาแรงกล้าที่จะทำให้แว่นตา 'โมเรล' ผลงานของเกษตรกรช่างฝีมือชาวฝรั่งเศส เป็นที่รู้จักของคนทั่วโลก ก้าวพ้นจากงานหัตถกรรมในครัวเรือน สู่การเติบโตที่ยิ่งใหญ่กว่าในเชิงอุตสาหกรรม เขาตัดสินใจมุ่งสู่ 'โมเนซ' (Monez) เมืองที่ให้กำเนิดแว่นตาคู่แรกของฝรั่งเศส แล้ว เทคโอเวอร์ กิจการผู้ผลิตแว่นตาเก่าแก่ 'บองเนอฟอย - ดูมองต์' (Bonnefoy - Dumont) เพื่อรวบเอา 'ช่างฝีมือเยี่ยม' และอุปกรณ์การผลิตที่มีทั้งหมดนั้นไว้ในมือ นี่คือก้าวย่างสำคัญที่สุด ! ก็เพราะความฝันทั้งในยามหลับและตื่นของ 'มาเรียส' ไม่ใช่แค่ สวิตเซอร์แลนด์ เบลเยี่ยม หรือภาคพื้นยุโรป แต่มันคือ สหรัฐอเมริกา ! ตลาดใหญ่ที่เป็นสะพานทอดสู่ความสนใจของคนทั้งโลก ! ทศวรรษ 1950's แว่นตาบางซีรี่ส์ของ 'โมเรล' ทำยอดขายสูงได้ถึง 20,000 คู่ในสหรัฐอเมริกา ไม่ทันไร ค.ศ.1958 'โมเรล' ก็ได้รับรางวัล 'ออสการ์ผู้ส่งออก' (Export Oscar) จากกระทรวงการคลังฝรั่งเศส ในฐานะผู้ส่งออกสำคัญของประเทศ ผ่านมายาวนานกว่าหนึ่งร้อยสามสิบปี แว่นตา 'โมเรล' ซึ่งเปรียบเสมือนหนึ่งในสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมที่ดำรงอยู่คู่ประวัติศาสตร์ของประเทศฝรั่งเศส สืบทอดกันมาถึง 4 เจเนอเรชั่น จาก 'จูเลส' สู่ 'มาเรียส' มาถึง 'จ๊าคส์' (Jacques) กระทั่งถึง 'ฟรานซิส เจโรเม่' และ 'อาเมลี' (Francis Jérôme and Amélie) ในปัจจุบัน ค.ศ.2008 แว่นตา 'โมเรล' หรือนามใหม่ว่า 'มาเรียส โมเรล 1880' ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติสูงสุด 'ซิลโม' (the Silmo d'or optic frame category) มีความสำคัญเทียบเท่า 'รางวัลออสการ์' ในโลกแห่งแว่นตา. * อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับ 'ศิลปะแว่นตาโมเรล' ฉบับเต็ม ได้จากคอลัมน์ 'ปกิณกะแว่นตา บทที่ ๒๕ ' ในเพจ : แว่นตา ของวินเทจ เจ้าคุณทิพย์ **หมายเหตุ : หากข้อเขียนนี้ จะอำนวยประโยชน์ให้เกิดแก่สังคมและสาธารณชน ผู้เขียนยินดีอย่างยิ่ง แต่หากนำไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ โปรดขออนุญาตก่อน ■□■□■□■□■ Vintage MOREL LUNETTES 315 50 - 18 12 KGF 1/20 58 □ 12 Tydee Style Gold Filled Frame 12 KGF Classic Teardrop MacArthur Aviator Model Beautiful Smoke Green Tinted Crystal Lenses UV Protection 100\% Handmade in the 1960's in Les Rousses, France มือสอง 'โมเรล' หนึ่งในแว่นตา 'เก่าแก่' และ 'ดี' ที่สุดของประเทศฝรั่งเศส' สภาพเทพ ! เก่าเก็บ / ผ่านการใช้งานโดยทนุถนอมอย่างยิ่ง อลังการงานสร้างแห่งทศวรรษที่ '60s โดยช่างฝีมือชั้นครูของ 'โมเรล' องคาพยพทุกส่วน ออริจินัล เดิม ๆ 100\% ยกเว้น แป้นจมูก และ ปลอกขา พลาสติค เท่านั้น เปลี่ยนใหม่ (พลาสติคของเดิมแห้งกรอบหมดอายุไปตามกาลเวลา) ไม่มีชุบ ไม่มีเชื่อม ไม่มีซ่อม สิริมายุ 50 ปี สร้างขึ้นจากวัสดุ 'ล้ำค่า' และ 'ดีที่สุด' ในการผลิตกรอบแว่นตา 'ทองคำแท้ผสม' (Gold Filled) 12 K สัดส่วนทองคำบริสุทธิ์ 50 \% ทองเต็ม ! สมบูรณ์แบบ ! ราศรีของ 'ทองโกลด์ฟิลด์' (Gold Filled) งดงาม แวววาว สุกสกาวอย่างยิ่ง ! ดีไซน์ตามขนบของโมเดลสุดซาบซึ้ง 'หยดน้ำตา - นักบิน' (Teardrop Aviator Model) หรือเรียกกันภายหลังว่า 'หยดน้ำตา - นักบิน - แมคอาร์เธอร์ ( Classic Teardrop MacArthur Aviator Model) ได้รับความนิยมระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 ก่อนแพร่ขยายกว้างขวางไปสู่สาธารณะ กระทั่งกลายเป็นรูปทรงแว่นตาอมตะคลาสสิคมาจนตราบเท่าทุกวันนี้ เลนส์กระจกคริสตัลกันแดด 'สีเขียวควันไฟ' (Beautiful Smoke Green Tinted Crystal Lenses) สว่าง ไม่ทึบ ไม่เปลี่ยนแปลงสีจริงในธรรมชาติ ปรับภาวะวิสัยรอบตัวให้งดงาม แจ่มชัด ทว่านุ่มนวล เนียนตาเป็นอย่างยิ่ง สภาพเลนส์ซุปเปอร์นางฟ้า 99\%+ ป้องกันรังสี UV 100\% อำพรางสายตาเจ้าชู้ 80\% ปกปิดรอยย่นรอบดวงตา (ตีนกา) 100\% ความกว้างโดยรวม 141 mm (หล่อมาตรฐาน / Standard Size ) ; ขนาดเลนส์ 58 mm ; ความสูงเลนส์ 52 mm ; ความยาวขา 137 mm แว่นตาฝรั่งเศสยุค '60s โกลด์ฟิลด์ 12 K 'โมเรล' ยิ่งใหญ่ระดับตำนาน ! ล้ำค่า ! หายาก ! ราคาบ้าน ๆ แบบลูกผู้ชายชื่อ ไอ้แผน ! 2,900 บาท สนใจติดต่อ : เจ้าคุณทิพย์ โทร 085 xxxx xxx หรือ Line ID : chaokuntip ***โปรดกดถูกใจ ติดตาม และแชร์ เพจ : แว่นตา ของวินเทจ เจ้าคุณทิพย์ ขอบคุณมากครับ
แก้ไขล่าสุดเมื่อ : 19/4/2565
สร้างเมื่อ : 29/11/2561
เลขที่ประกาศ :MVNwMx35Lg
฿ 2,900