ประมูลหัวลากสแกนเนีย 8 คันและหางลาก 5 คันและอะไล่หัวลากสแกนเนีย 725 รายการ

ประมูลหัวลากสแกนเนีย 8 คันและหางลาก 5 คันและอะไล่หัวลากสแกนเนีย 725 รายการ เรื่อง เปิดประมูลซื้อ-ขาย ทรัพย์สิน ขอเชิญผู้ที่สนใจเข้าร่วมประมูลซื้อ-ขายทรัพย์สิน ตามรายละเอียดต่อไปนี้ 1. รถหัวลากสแกนเนีย 1.1 ปีที่ซื้อ 2537 จำนวน 1 คัน 310 HP (Series 3) ราคาเริ่มต้นประมูล 250,000 / คัน 1.2 ปีที่ซื้อ 2544 จำนวน 7 คัน 360 HP (Series 4) ราคาเริ่มต้นประมูล 520,000 / คัน รวม 8 คัน. 2. หางลาก ยาว 40 ฟุต 2.1 ปีที่ซื้อ 2535 จำนวน 2 คัน 2 เพลา 4 ล้อ ยาง 8 เส้น ราคาเริ่มต้นประมูล 40,000 / คัน 2.2 ปีที่ซื้อ 2537 จำนวน 2 คัน 2 เพลา 4 ล้อ ยาง 8 เส้น ราคาเริ่มต้นประมูล 40,000 / คัน 2.3 ไม่มีทะเบียน 1 คัน. ราคาเริ่มต้นประมูล 35,000 / คัน รวม 5 คัน. 3. อะไหล่ หัวลากสแกนเนีย Series 3,4 จำนวน 725 รายการ ราคาเริ่มต้นประมูล 156,800 บาท 4. ผู้ยื่นประมูลจะต้อง ยื่นประมูลรายการทรัพย์สินที่ทำการประมูล ตามข้อ 1-3 และต้องเป็นผู้ยื่นรายเดียวกัน โดยราคาเริ่มต้นประมูลรวมภาษีมูลค่าเพิ่มทั้ง 3 รายการ เป็นจำนวนเงิน 4,241,800.00 บาท ( สี่ล้านสองแสนสี่หมื่นหนึ่งพันแปดร้อยบาทถ้วน) เงื่อนไขการประมูล 1.ผู้ขายจะขายทรัพย์สินตามสภาพที่เป็นอยู่และไม่รับผิดชอบในความชำรุดบกพร่องของทรัพย์สิน ผู้ซื้อมีหน้าที่ที่จะต้องตรวจสอบทรัพย์สินที่จะซื้อก่อนที่จะประมูลตามที่ระบุไว้ข้างต้น และผู้ขายถือว่าผู้ซื้อได้รับทราบถึงสภาพทรัพย์สินครบถ้วนตรงตามประสงค์ของผู้ซื้อแล้ว ผู้ซื้อสามารถติดต่อผู้ขายโดยผ่าน * นายวัชระ ชื่นชม โทรศัพท์หมายเลข 081-xxxxxxx[ดูเบอร์โทร] * นายบรรพต ถนัดค้า โทรศัพท์หมายเลข 081-xxxxxxx[ดูเบอร์โทร] เพื่อตรวจสภาพทรัพย์สินและหลักฐานการเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สิน 2. หลักฐานที่ต้องนำมาประมูล 2.1 กรณีบุคคลธรรมดาประมูล - ต้องมีบัตรประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้าน พร้อมสำเนา 2.2 กรณีนิติบุคคลประมูล - ต้องมีหนังสือรับรองนิติบุคคลที่นายทะเบียนรับรองไม่เกิน 1 เดือน - ใบทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภ.พ.20) - สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนหรือหนังสือเดินทางของผู้มีอำนาจในนิติบุคคล 2.3 กรณีบุคคลธรรมดาประสงค์ให้ผู้อื่นเข้าประมูลแทน - ต้องมีหนังสือมอบอำนาจ พร้อมแนบสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้าน ของผู้มอบอำนาจและสำเนาบัตรประชาชนของผู้รับมอบอำนาจ 2.4 กรณีนิติบุคคลประสงค์จะให้ผู้อื่นประมูลแทน - ต้องมีหนังสือมอบอำนาจ หนังสือรับรองนิติบุคคล - ใบทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภ.พ.20) - สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนหรือหนังสือเดินทางของผู้มีอำนาจในนิติบุคคล - สำเนาบัตรประชาชนของรับมอบอำนาจ 3. หลักประกันก่อนเข้าประมูล 3.1 แคชเชียร์เช็ค สำหรับประมูลหัวลาก หางลากและอะไหล่ จำนวนเงิน 848,360.00 บาท (แปดแสนสี่หมื่นแปดพันสามร้อยหกสิบบาทถ้วน) 3.2 แคชเชียร์เช็ค สั่งจ่ายในนาม "บริษัท เอเวอร์กรีน คอนเทนเนอร์ เทอร์มินัล (ประเทศไทย) จำกัด" 4. ผู้ประมูลจะต้องยื่นแคชเชียร์เช็คพร้อมเอกสารการประมูลตามข้อ 2 มายื่นต่อผู้ขายภายในเวลา 10.30 น. ของวันที่ 22 มีนาคม 2559 5. ผู้ขายจะคืน แคชเชียร์ เช็ค ให้กับผู้ที่ประมูลไม่ได้ทันทีที่ผู้ขายทราบผู้เสนอราคาสูงสุดในการประมูล ทรัพย์สิน 6. ผู้ที่เสนอราคาสูงสุด ซึ่งผู้ขายได้ยอมรับราคาประมูลจะต้องทำสัญญาซื้อ-ขายกับผู้ขาย ณ.วันที่ประมูล 7. ถ้าผู้เสนอราคาสูงสุดซึ่งผู้ขายได้ยอมรับราคาประมูลไม่ทำสัญญาซื้อ-ขายกับผู้ขาย ผู้ขายจะไม่คืน แคชเชียร์เช็ค โดยจะยึดแคชเชียร์เช็คเป็นค่าเสียหาย 8. ผู้ที่เสนอราคาสูงสุดซึ่งผู้ขายได้ยอมรับราคาประมูลจะทำสัญญาซื้อ-ขายกับผู้ขาย โดยผู้ขายจะนำเงิน หลักประกันข้างต้นเป็นเงินมัดจำในการทำสัญญาซื้อ-ขาย 9. วันที่ ประมูล 22 มีนาคม 2559 เวลา 10.30 น. ในกรณีที่ผู้ประมูลซึ่งได้ยื่นแคชเชียร์เช็คและเอกสารการขอเข้าประมูลมาล่าช้ากว่าเวลาที่กำหนดไว้ ผู้ขาย ขอสงวนสิทธิที่จะให้ผู้ประมูลดังกล่าวเข้าร่วมประมูล 10. สถานที่ประมูล "บริษัท เอเวอร์กรีน คอนเทนเนอร์ เทอร์มินัล (ประเทศไทย) จำกัด" ลาดกระบัง ไอซีดี ประตู 3 ณ. ห้องประชุมชั้น 4. หนังสือสัญญาซื้อ – ขายทรัพย์สิน สัญญานี้ทำขึ้นที่…………………………… วันที่ เดือน พ.ศ ……………………… ก. บริษัท ……………………………………………………… โดย…………………………………….. ตำแหน่ง ………………………….. สำนักงานตั้งอยู่เลขที่ ……หมู่ที่ …… ซอย …… ถนน …………………..…ตำบล ……………………..…อำเภอ …………………..…จังหวัด …………….… ซึ่งเรียกว่า “ผู้ขาย” ฝ่ายหนึ่ง กับ ข. บริษัท จำกัด โดย ................................................................. ที่อยู่เลขที่ หมู่ที่ ตำบล อำเภอ จังหวัด ซึ่งเรียกว่า “ผู้ซื้อ” อีกฝ่ายหนึ่ง ทั้งสองฝ่ายตกลงทำสัญญากัน โดยมีข้อความดังต่อไปนี้ ข้อ 1. ผู้ซื้อตกลงซื้อ และผู้ขายตกลงขาย รถหัวลากสแกนเนีย จำนวน 8 คัน หางลาก 5 คัน และ อะไหล่ จำนวน 725 รายการ ตามบัญชีรายการทรัพย์สินแนบท้ายหนังสือสัญญาฉบับนี้ (ต่อไปนี้ให้เรียกว่า “ทรัพย์สิน” และถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของสัญญานี้) ตามสภาพที่เป็นอยู่ โดยผู้ขายไม่ต้องรับผิดในความชำรุดบกพร่องของทรัพย์สินที่ซื้อขาย. ข้อ 2. ทั้งสองฝ่ายตกลงซื้อขายทรัพย์สินตามสัญญานี้ในราคาทั้งสิ้นจำนวน บาท ( ) โดยในวันทำสัญญานี้ผู้ขายได้รับเงินมัดจำ เป็นจำนวนเงิน บาท ( ) จากผู้ซื้อ เป็นเช็คธนาคาร สาขา เลขที่เช็ค ลงวันที่ เดือน พ.ศ. และผู้ซื้อจะชำระค่าทรัพย์สินส่วนที่เหลืออีกเป็นจำนวนเงิน บาท (............................................) ภายใน วันที่ 22 เมษายน 2559 ถ้าผู้ซื้อไม่ชำระเงินในส่วนที่เหลือภายในกำหนดเวลาดังกล่าว จะถือว่าผู้ซื้อเป็นฝ่ายผิดสัญญาและผู้ซื้อตกลงให้ผู้ขายยึดเงินมัดจำดังกล่าวได้ ข้อ 3. เมื่อผู้ซื้อได้ชำระราคาทรัพย์สินที่ซื้อขายให้กับผู้ขายครบถ้วนตามสัญญา ข้อ 2 พร้อมทั้งได้ตรวจสภาพของทรัพย์สินซึ่งมีเครื่องมือและอุปกรณ์ประจำรถ ครบถ้วนอยู่ในสภาพใช้การได้ดีตรงตามความประสงค์ของผู้ซื้อแล้ว ผู้ซื้อจะดำเนินการนำทรัพย์สินออกจากสำนักงานบริษัทของผู้ขาย ตามสำนักงานที่ตั้งที่ใช้งานอยู่ นับจากวันที่ผู้ซื้อได้ชำระมูลค่าทรัพย์สินที่ตกลงซื้อ-ขาย จนครบถ้วนแล้ว ข้อ 4. หลังจากที่ผู้ซื้อได้ชำระราคาซื้อขายครบถ้วนให้กับผู้ขายตามข้อ 2 ข้อตกลงจะดำเนินการรับโอนกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินและเปลี่ยนแปลงชื่อเจ้าของทรัพย์สินในสมุดคู่มือจดทะเบียนทรัพย์สินด้วยค่าใช้จ่ายของผู้ซื้อเองทั้งสิ้น โดยผู้ขายจะได้จัดทำหนังสือมอบอำนาจและเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการดังกล่าว ข้อ 5. ผู้ซื้อและผู้ขายตกลงว่าเมื่อผู้ซื้อได้ชำระราคาซื้อขายครบถ้วนตามสัญญาฉบับนี้ ให้ถือว่ากรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินได้โอนไปยังผู้ซื้อ ในวันที่ผู้ซื้อได้ชำระราคาซื้อขายครบถ้วน แม้ว่าจะยังมิได้จดทะเบียนเปลี่ยนแปลงชื่อเจ้าชองรถในสมุดจดทะเบียนทรัพย์สิน และแม้ผู้ขายจะยังมิได้นำทรัพย์สินออกจากสถานที่สำนักงานบริษัทของผู้ขาย ดังนั้น หลังจากวันที่ผู้ซื้อได้ชำระราคาซื้อขายให้กับผู้ขายครบถ้วนจะถือว่าผู้ซื้อเป็นผู้ครอบครองทรัพย์สินและจะเป็นผู้รับผิดชอบในทุกกรณีไม่ว่าจะเป็นความรับผิดทั้งทางคดีแพ่งและคดีอาญาเกี่ยวกับทรัพย์สินดังกล่าวกับบุคคลภายนอกและผู้ซื้อจะเป็นผู้รับผิดชอบในบรรดาการสูญเสียหรือความเสียหายใดๆที่อาจจะเกิดขึ้นกับทรัพย์สินที่ซื้อขายตามสัญญานี้ ข้อ 6. ในการนำทรัพย์สินออกจากสำนักงานบริษัทของผู้ขาย ผู้ซื้อจะต้องดำเนินการถอดแผ่นป้ายทะเบียนรถและคืนแผ่นป้ายทะเบียนรถให้กับผู้ขาย อีกทั้งผู้ซื้อจะต้องดำเนินถอดสัญลักษณ์การค้าของผู้ขายออกจากทรัพย์สิน (ถ้ามี) มิฉะนั้นผู้ขายจะไม่อนุญาตให้นำทรัพย์สินออกจากที่ทำการของผู้ขาย ข้อ 7. ถ้าผู้ซื้อไม่นำทรัพย์สินออกจากที่ทำการผู้ขาย ตามที่ตั้งของทรัพย์สิน ภายใน 2 สัปดาห์ ตามที่ระบุไว้ในข้อ 3 ผู้ซื้อยินยอมตกลงชำระค่าเก็บรักษาทรัพย์สินให้กับผู้ขายในอัตราวันละ 1,000 บาทต่อ 1 หน่วยของทรัพย์สิน สำหรับ 3 วันแรกและหลังจากนั้นในอัตราวันละ 2,000 บาทต่อ 1 หน่วยของทรัพย์สิน จนกว่าผู้ซื้อจะนำทรัพย์สินออกจากที่ทำการบริษัทฯ จนเสร็จสิ้น สัญญานี้ทำขึ้นสองฉบับ มีข้อความถูกต้องตรงกันโดยทั้งสองฝ่ายได้ทราบและได้อ่านข้อความเป็นที่เข้าใจเรียบร้อยโดยตลอดแล้ว เห็นว่าตรงตามเจตนาของตน เพื่อเป็นหลักฐานแห่งการทำสัญญานี้ คู่สัญญาทั้งสองจึงได้ลงลายมือชื่อไว้เป็นสำคัญต่อหน้าพยานและยึดถือไว้ฝ่ายละฉบับ ผู้ขาย ผู้ซื้อ บริษัท เอเวอร์กรีน คอนเทนเนอร์ ...................................................... เทอร์มินัล (ประเทศไทย) จำกัด ลงชื่อ .........................................กรรมการผู้มีอำนาจลงนาม ลงชื่อ ................................... ผู้รับมอบอำนาจ ( ……………………………… ) ( ................................................. ) ลงชื่อ (พยาน) ลงชื่อ (พยาน) ( ……………………………… ) ( …………………………………… )