แว่นตาเทพเจ้าของชาวเยอรมันที่คนทั้งโลกรู้จัก โรเดนสต็อค–RODENSTOCK–คอร์ซาร์ ซีรีส์ ตัวแท้ สภาพเทพ เก่าเก็บทศวรรษ 1970 โมเดลหายาก–หยดน้ำตา–นักบิน–ไซซ์หล่อ–เลนส์ 54mm ซิกเนเจอร์ประจำกายของ ฌอน เพนน์, เดเนียล เครก, เจนนิเฟอร์ อานิสตัน เลนส์กระจกคริสตัลสีเทาควันไฟ ป้องกันUV100% น.น.33g ขนาดมาตรฐาน 138mm

■□■□■□■□■ 'โรเดนสต็อค' (RODENSTOCK GmbH) แว่นตาเทพเจ้าของชาวเยอรมัน¹ ก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ.1877 ณ เมืองวูร์สเบิร์ก แคว้นบาวาเรีย โดยพ่อค้าเร่ขายแว่นตาอัจฉริยะวัย 31 ปี 'โจเซฟ โรเดนสต็อค' (Josef Rodenstock : AD1846–1932) ร่วมกับพี่ชายของเขา 'มิเชล' (Michael Rodenstock) นี่คือหนึ่งในผู้ผลิตยิ่งใหญ่ที่สุดจากปลายศตวรรษที่ 19 ถึงต้นศตวรรษ 21 สร้างสรรค์นวัตกรรมสำคัญๆ ครั้งแล้วครั้งเล่า ชนิดที่ต้องจารึกไว้ในประวัติศาสตร์โลกแว่นตากันเลยทีเดียว ค.ศ.1880 'โจเซฟ โรเดนสต็อค' พัฒนาคุณภาพ 'เลนส์ไดอะเฟรม' (Diaphragm Lenses) ของเขา กระทั่งกลายเป็นเลนส์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดของยุคนั้น ค.ศ.1899 เลนส์กระจกกันแดด (Sunglasses Lens) ชิ้นแรกภายใต้นาม 'โรเดนสต็อค' ก็อุบัติขึ้น! ค.ศ.1899 ปีเดียวกัน 'โรเดนสต็อค' ตอกย้ำความเป็น 'ดิ ออริจินัล' อีกครั้ง เมื่อผลิต 'เลนส์สายตา 2 ชั้น' (Bifocal Lens) สามารถมองควบคู่กันได้ทั้งระยะใกล้และระยะไกล สำเร็จเป็นครั้งแรกของโลก ค.ศ.1968 ได้เวลาของ 'เลนส์เปลี่ยนสีอัตโนมัติ' (Phototropic หรือที่คนไทยเรียกว่า 'เลนส์ออโต้') ตัวแรกของยุโรปกันซะที ค.ศ.1975 ท่ามกลางความผันผวนของอุตสาหกรรมน้ำมัน 'โรเดนสต็อค' ผลิตเลนส์แว่นตาที่มีความแม่นยำสูงจากพลาสติกได้สำเร็จ ค.ศ.1981 นำเสนอเลนส์ 'โพรเกรสซีฟ อาร์' (Progressiv R) คุณภาพระดับไฮ–เอนด์ ประสบความสำเร็จในชั่วเวลาเพียงแค่ข้ามคืน ค.ศ.1990 นามของ 'โรเดนสต็อค' โด่งดังอย่างยิ่ง ในฐานะเป็นผู้ผลิตแว่นตาเพียงไม่กี่รายในโลก ที่ครบเครื่อง ผลิตทั้ง 'กรอบ' และ 'เลนส์' ด้วยตนเอง ค.ศ.1998 ได้รับรางวัลด้านดีไซน์เป็นคำรบที่ 50 ค.ศ.2000 เริ่มต้นสหัสวรรษใหม่ เปิดตัว 'อิมเพรสชั่น 1 แอลที' (ImpressionILT) เลนส์โพรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล' ชิ้นแรกของโลก สอดคล้องสมบูรณ์แบบกับพฤติกรรมการมองของแต่ละบุคคล 100% และ ฯลฯ นับจนถึงวันนี้ 'โรเดนสต็อค' ถือสิทธิบัตรในฐานะผู้คิดค้น - สร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ด้านแว่นตาจำนวนถึง 550 ฉบับ ผลงานน่าอัศจรรย์มากมายเยี่ยงนี้ เชื่อว่าอีกนานโขกว่าจะมีผู้ใดก้าวขึ้นมาเทียบเคียงได้ ! ย้อนกลับไปยังห้วงเวลาที่น่าสนใจที่สุด ระหว่างทศวรรษที่ 1900's–1950's เมื่อ 'อเล็กซานเดอร์ โรเดนสต็อค' (Alexander Rodenstock) บุตรชายคนโตวัย 21 ปีของ 'โจเซฟ' หันหลังเดินออกจากการศึกษาในภาควิชาฟิสิคส์ มหาวิทยาลัยเทคนิคแห่งเมืองมิวนิค (The Munich Technical University) ในปี ค.ศ.1905 เข้ามาเรียนรู้และช่วยงานกิจการของบิดาอย่างเต็มตัว หลังจากสั่งสมประสบการณ์ยาวนาน 14 ปี (ค.ศ.1919) 'อเล็กซานเดอร์' ก็ก้าวขึ้นเป็นผู้บริหารสูงสุดอันดับหนึ่งของ 'โรเดนสต็อค' นำพากิจการที่รับช่วงจากบิดา เหินข้ามภูเขาใหญ่แห่งความยุ่งยากทั้ง 3 ประการ คือ (1) วิกฤตการณ์หลังเยอรมันพ่ายแพ้สงครามโลกครั้งที่ 1 (2) วิกฤตการณ์สงครามโลกครั้งที่ 2 ค.ศ.1939–1945 (3) วิกฤตเศรษฐกิจตกต่ำและบ้านเมืองเสียหายจากมหันตภัยหลังสงคราม หลังพายุฝน ท้องฟ้าย่อมแจ่มใส (ขอเพียงเราผ่านมันไปให้ได้เท่านั้น) น่ายินดีที่พวกเขาฟันฝ่ามาได้สำเร็จ! 'โรเดนสต็อค' ภายใต้การนำของ 'อเล็กซานเดอร์' ถึงเวลาเติบใหญ่ ขยายกำลังการผลิตจากเดิมที่มีพนักงาน 200 คน เพิ่มพรวด 10 เท่า พุ่งทะยานขึ้นเป็น 2,000 คน พร้อมกับนวัตกรรมใหม่ ๆ เกี่ยวกับแว่นตาที่ซัดกระหน่ำลงมาราวกับฝนห่าใหญ่ ไม่เพียงโดดเด่นด้านบริหาร 'อเล็กซานเดอร์' มีคุณสมบัติพิเศษด้านจิตใจอีกด้วย เขาเป็นคนมีเมตตา หัวก้าวหน้า ยึดมั่นในอุดมคติประชาธิปไตย เขาจัดตั้งกองทุนประกันสุขภาพพนักงานในปี ค.ศ.1908 อีกทั้งมีส่วนร่วมในการปฏิวัติ 'มิวนิค โซเวียต' (Munich Soviet) ที่ได้รูปแบบจากการปฏิวัติรัสเซีย เพื่อการแยกตัวเป็น 'รัฐอิสระ' ของ 'บาวาเรีย' ภายหลังการล่มสลายของระบอบราชาธิปไตยของราชวงศ์วิตเตลสบาค (Wittelsbach) ในปี ค.ศ.1918 เขาอยู่ในฝั่งต่อต้านชนชั้นนายทุน เป็นที่ปรึกษาให้กับ 'พรรคประชาชนบาวาเรียน' (Bavarian People's Party) ฯลฯ จนถึงวันนี้ พูดได้เลยว่า 'โรเดนสต็อค' คือแว่นตาเพียงแบรนด์เดียวที่คนทั้งโลกรู้จัก เป็น 'เอตทัคคะ' ทั้งด้าน 'กรอบ' และ 'เลนส์' สำนักงานใหญ่ยังอยู่ที่เดิมในมิวนิค แคว้นบาวาเรีย ประเทศเยอรมนี พนักงาน 4,700 คน มีสาขา 85 แห่งทั่วทุกมุมโลก ทั้งยังมีฐานการผลิตนอกประเทศที่เข้มแข็งในญี่ปุ่น, มอลต้า–ยุโรปใต้ ตลอดจนโรงงานผลิตเลนส์ของตัวเอง 14 แห่งใน 13 ประเทศ หนึ่งในนั้นคือที่ นิคมอุตสาหกรรม ลาดกระบัง ประเทศไทย. เจ้าคุณทิพย์ : เขียน _________ ¹ จากคอลัมน์ 'ปกิณกะแว่นตา บทที่ ๔ : โรเดนสต็อค–แว่นตาเทพเจ้าของชาวเยอรมัน' ในเพจ : แว่นตา ของวินเทจ เจ้าคุณทิพย์ ★★★ หมายเหตุ : หากข้อเขียนนี้ จะอำนวยประโยชน์ให้เกิดแก่สังคมและสาธารณชน ผู้เขียน 'เจ้าคุณทิพย์' ยินดีอย่างยิ่ง กรณีนำไปเผยแพร่ต่อ โดยธรรมเนียมปฏิบัติสากล คือ ลงเครดิตผู้เขียน และ ที่มาของงาน แต่หากนำไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ โปรดแจ้ง และลงเครดิตผู้เขียน ตลอดจนที่มาของงาน ■□■□■□■□■ Very Rare Find 100% Authentic Vintage RODENSTOCK Corsar Series 54 □ 16 135 Shiny Chrome Metal Frame German's Black Silicone Temple Tip Double Bridge Weight 33g Classic Small Teardrop Aviator Model Rare Beautiful Smoke Grey Tinted Crystal Lenses UV Protection 100% Handcrafted in the 1970s in Wurzburg, Bavaria, Germany มือสอง โรเดนสต็อค ตัวแท้ ! (RODENSTOCK GmbH) ★★★ แว่นตาเทพเจ้าของชาวเยอรมันที่คนทั้งโลกรู้จัก ★★★ รุ่น 'คอร์ซาร์' (Corsar Series) _________ ■★■ แว่นตา 'ไซซ์หล่อ' หายาก–หยดน้ำตา–นักบิน–เลนส์ 54mm สัญลักษณ์ประจำกายของเหล่าศิลปินที่มีอัตลักษณ์โดดเด่นที่สุด ★ ฌอน เพนน์ (Sean Penn) นักแสดงนำชายอเมริกันเจ้าของ 2 รางวัลออสการ์ ★ หลิว เต๋อหัว (Andy Lau) ศิลปินฮ่องกงยุค '80s ที่ได้รับยกย่องเป็น 'ราชาแห่งภาพยนตร์จีน' ★ เดเนียล เครก (Daniel Craig) นักแสดงชาวอังกฤษ เจ้าของบทบาท เจมส์ บอนด์ 007 พยัคฆ์ร้ายเจ้าเสน่ห์ ★ ทารอน เอเจอร์ตัน (Taron Egerton) นักแสดงชาวเวลส์ ผู้ได้รับรางวัลลูกโลกทองคำจาก Rocketman : 2019 ★ เจนนิเฟอร์ อานิสตัน (Jennifer Aniston) ศิลปินหญิงอเมริกันเจ้าของสถิติ 'นักแสดงโทรทัศน์ที่ได้รับค่าตอบแทนสูงสุดตลอดกาล' (1 ล้านเหรียญดอลลาร์ต่อ 1 ตอน) ฯลฯ ___________ ★★★ ผลงานสร้างทศวรรษ 1970s โดยช่างฝีมือสายพันธุ์อินทรีเหล็กแห่งวูร์สเบิร์ก แคว้นบาวาเรีย ถิ่นกำเนิดของ 'เดอะ บิ๊กเนม–โรเดนสต็อค' ผู้ผลิตแว่นตาเยอรมันที่ยืนยงมาถึง 145 ปี ■□■ สภาพเทพ / เก่าเก็บ / ใช้งานสุดทนุถนอม ! ★ ขนาดมาตรฐานโมเดลนี้ 138 mm ★ ขนาดเลนส์ไซซ์หล่อ 54 mm _________ ■★■ พิเศษที่สุด : น้ำหนักกรอบและเลนส์กระจกคริสตัล รวมกันเพียง 33 กรัม ไม่หนัก สวมใส่เบาสบาย ■★■ _________ ■□■ องค์ประกอบทุกชิ้นส่วน ออริจินัล เดิม ๆ 100% ไม่เว้นแม้กระทั่งน็อตทุกตัว ★ ไม่มีชุบ ไม่มีเชื่อม ไม่มีซ่อม ★ ไม่มีการดัดแปลงใด ๆ ทั้งสิ้น ★ องคาพยพทุกส่วนสมบูรณ์แบบ ★ สิริมายุ 50 ปี ■□■ ดีไซน์ตามขนบโมเดลอมตะ 'หยดน้ำตา–นักบิน–ไซซ์หล่อ' (Classic Small Teardrop Aviator Model) ที่ถือกำเนิดเมื่อ ค.ศ.1939 และได้รับความนิยมนับแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 (World War ll : Sep 1, 1939–Sep 2, 1945) เป็นต้นมา ★★★ กรอบราชสีห์เงินของ โรเดนสต็อค (RODENSTOCK's Silver Chrome Metal Frame) ปราดเปรียว ! เท่แบบฝรั่ง ! บริสุทธิ์ผุดผ่อง ! ปราศจากริ้วรอย ! ★★★ คานสองชั้น (Double Bridge) ตามแบบฉบับแว่นตานักบิน (Aviator Sunglasses) ขนานแท้ แข็งแรงกว่าแว่นตาปกติ 2 เท่า _________ ■★■ ปลอกขาซิลิโคนดำ–เยอรมัน (German's Black Silicone Temple Tip) เปลี่ยนใหม่ ดำสนิท กันลื่น ผิวสัมผัสนุ่มนวล ไม่ทำปฏิกริยาระคายเคือง (อาการแพ้) ต่อผิวหนังมนุษย์ ■★■ _________ ■□■ *** โบนัสที่คลาสสิคที่สุด : เลนส์กระจกคริสตัล หายาก 'สีเทาควันไฟ–สว่าง' (Rare Beautiful Smoke Grey Tinted Crystal Lenses) มาดเข้ม ไม่เปลี่ยนแปลงสีจริงในธรรมชาติ ตัดเงาและแสงสะท้อน ปรับภาวะวิสัยรอบตัวให้แจ่มชัด นุ่มนวล โฟกัสดีเยี่ยม _________ ★★★ สภาพเลนส์ซุปเปอร์นางฟ้า 100% ป้องกันรังสียูวี 100% สวมใส่ได้ทั้งกลางวันและกลางคืน --------------- ■□■ ความกว้างโดยรวม 138 mm (ขนาดมาตรฐานของโมเดลนี้ / Standard Size) ; ขนาดเลนส์ไซซ์หล่อ 54 mm ; ความสูงเลนส์ 44 mm ; ความยาวขา 145 mm ■□■ แว่นตาเทพเจ้าของชาวเยอรมัน 'โรเดนสต็อค : คอร์ซาร์ ซีรีส์' ตัวแท้ ! เก่าเก็บทศวรรษ 1970 โมเดลหายาก–หยดน้ำตานักบิน–ไซซ์หล่อ 54mm + เลนส์กระจกคริสตัล สีเทาควันไฟ–สว่าง งดงามดุจอัญมณี สะท้อนภาพความยิ่งใหญ่เยี่ยงพญาอินทรีเหล็กขนานแท้ ! ★★★ ให้ตายเถอะโรบิน... ไอ้แผน มันขายราคาตามประสาผู้ยิ่งเล็ก เหมียน... เดิม ! ★★★ 2,800 บาท (ราคาเน็ต / Net Price) ★★★ พร้อมกล่องฮาร์ดเคส และผ้าเช็ดแว่นไมโครไฟเบอร์ อีกต่างหาก ! ★★★ สนใจติดต่อ : เจ้าคุณทิพย์ โทร 085 xxxx xxx[ดูเบอร์โทร] ★★★ หรือ Line ID : chaokuntip ★★★ หรือ facebook เพจ : แว่นตา ของวินเทจ เจ้าคุณทิพย์ __________ ★★★ หมายเหตุ : ภาพแว่นตาทั้งหมดในประกาศนี้ เป็นภาพถ่ายจริงในแสงธรรมชาติ ไม่มีการตกแต่งหรือดัดแปลงด้วยเทคนิคใด ๆ ทั้งสิ้น ★★★ —————— ***โปรดกดถูกใจ ติดตาม และกดแชร์ เพจ : แว่นตา ของวินเทจ เจ้าคุณทิพย์ *** ขอบคุณมากครับ #แว่นตา #วินเทจ #เจ้าคุณทิพย์ #vintage #glasses #spectacle #sunglasses