




+23
฿ 2,300
แว่นตาปาริเซียนแฮนด์เมดทศวรรษที่ 1980's ผลงานในตำนานของ 'เอสซิลอร์' งานทองเดินลาย - รมดำ *** เลนส์กระจกคริสตัล 'สีน้ำตาล - ชา' Vintage LES LUNETTES ESSILOR handmade in France
รายละเอียดสินค้า
หมวดหมู่หลัก
จังหวัดที่ตั้งสินค้า
ข้อมูลเพิ่มเติม
'เอสซิลอร์' (Les Lunettes Essilor) แว่นตาแฮนด์เมดฝรั่งเศสในตำนานทศวรรษ 1970 - 80's ผลงานสร้างโดยช่างฝีมือชั้นครูสายพันธุ์ปาริเซียน กรอบ มุมแว่น คาน และ ก้านขา : งานทองเดินลาย - รมดำ งดงาม ประณีต วิจิตรบรรจง สภาพเทพ / เก่าเก็บ / ใหม่กริ๊บ โมเดลคลาสสิค 'สี่เหลี่ยมคางหมู - มน' (Classic Round Trapezoid Model) เลนส์กระจกคริสตัล 'สีน้ำตาล - ชา' ซุปเปอร์นางฟ้า 99\%+ ขนาดมาตรฐาน 140 mm
.
.
'เอสซิลอร์'
(Les Lunettes Essilor)
แว่นตาสายพันธุ์ปาริเซียนในตำนานทศวรรษที่ 1970 - 80's
กำเนิดจากรากฐานเดิมของ 'โซลอามอร์' (Sol Amor ; ชื่อเดิมระหว่าง ค.ศ.1931 - 1945 คืิอ Lissac) แว่นตาแฮนด์คราฟท์คุณภาพสูงของฝรั่งเศส ที่ผลิตขึ้นครั้งแรกเมื่อ ค.ศ.1946 โดยการริเริ่มของ 'จอร์จส์ ลิสแซค' (Georges Lissac AD1897 - 1969) อดีตช่างและศิลปินนักออกแบบแว่นตา ผู้เป็นเจ้าของกิจการร้านแว่นตาครบวงจร 'ลิสแซค บราเธอร์ส' (Lissac Brothers : 1931) ในกรุงปารีส
แรกเริ่ม 'โซลอามอร์' เป็นที่นิยมในหมู่นักแสดง คนดัง ชนชั้นนำของฝรั่งเศส แล้วจึงแพร่กระจายออกไป กระทั่งได้รับความนิยมกว้างขวาง
'ลิสแซค บราเธอร์ส' ไม่เพียงผลิตกรอบแว่นตาแบบโกลด์ฟิลด์ (Gold Filled Frame) ในนาม 'โซลอามอร์' (Sol Amor) และ 'อามอร์' (Amor) ที่มีราคาแพงเท่านั้น แต่ยังคิดค้นวิธีผลิตกรอบแว่นตาพลาสติคคุณภาพสูง เพื่อรองรับต่อการขาดแคลนวัตถุดิบในฝรั่งเศสหลังภาวะสงครามโลกครั้งที่สอง ก่อให้เกิดกระแสนิยมคลั่งไคล้ 'กรอบแว่นตาพลาสติกของฝรั่งเศส' ที่สืบเนื่องมาถึงปัจจุบัน
บุคคลมีชื่อเสียงยุคนั้นที่สวมใส่แว่นตาสกุล 'โซลอามอร์' ได้แก่ ประธานาธิบดี จอห์น เอฟ เคนเนดี, ฌอง-ลัค โกดาร์ด, ไมเคิล มอร์แกน, ฌอง-ปอล เบลมอนโด (สวมใส่ในภาพยนตร์เรื่อง A Bout de souffle) ฯลฯ
ระหว่างทศวรรษ 1950's - '60s แว่นตา 'โซลอามอร์' มากกว่า 15 ล้านคู่ จำหน่ายในฝรั่งเศส ยุโรป สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น นับเป็นหนึ่งในผู้ผลิตแว่นตารายใหญ่เช่นเดียวกับ 'ลามี' (L'amy) และ 'โมเรล' (Morel) ในห้วงเวลาที่ดีที่สุดช่วงหนึ่งของอุตสาหกรรมแว่นตาฝรั่งเศสในศตวรรษที่ 20
แต่ทว่าหลังการเสียชีวิตของ 'จอร์จส์ ลิสแซค' ไม่กี่ปี ประวัติศาสตร์หน้าแรกของแว่นตา 'โซลอามอร์' ก็ปิดฉากลง
เมื่อสองผู้ผลิตในเครือ 'ลิสแซคกรู๊ป' (Two Industrial Parts of Lissac Group) คือ 'ซิล' (Sil) และ 'ลอร์' (Lor) รวมตัวกันให้กำเนิดแว่นตาที่รู้จักดีในเวลาต่อมาว่า 'ซิลอร์' (Silor) เพื่อเปิดช่องทางการตลาดและก้าวให้ทันแนวโน้มของธุรกิจแว่นตาสมัยใหม่
ถัดจากนั้นในปี 1972 นาม 'เอสซิลอร์' (Les Lunettes Essilor) จึงถูกกล่าวขาน !
จากการควบรวมกิจการอีกครั้งระหว่าง 'ซิลอร์' กับอดีตคู่ปรปักษ์ทางการค้า คือ 'เอสเซล' (Essel : 1849 -1972) ผู้เป็นต้นแบบคิดค้นกรอบแว่นตาอมตะแบบ 'ไนเลอร์' (Nylor Style) หรือที่รู้จักกันดีว่า 'กรอบครึ่งเดียว - เลนส์เซาะร่อง - ร้อยเอ็น' (Half Rimless Nylor Model)
อุบัติขึ้นเป็น 'เอสซิลอร์' (Essel + Silor = Essilor)
แบรนด์แห่งแว่นตา เลนส์ และนวัตกรรมเกี่ยวกับเทคโนโลยีแว่นตา ยักษ์ใหญ่อันดับ 3 ของโลก
บันทึกไว้ ณ บรรทัดนี้ว่า 'เอสซิลอร์' (สืบเนื่องจาก 'เอสเซล') คือ ผู้ผลิต 'แวริลักซ์' (Varilux) เลนส์โพรเกรสซีฟ เพื่อแก้ไขวิสัยทัศน์ระยะใกล้และไกล สำเร็จเป็นครั้งแรกของโลก !
รวมทั้งเป็นผู้ผลิต เลนส์ปรับแสง (Transitions Lens) คุณภาพสูง ตลอดจน 'แอร์แวร์' (Airwear Polycabornate Lens) เลนส์โพลีคาร์บอเนตที่ไม่มีวันแตกหัก น้ำหนักเบาพิเศษ
แน่นอนละว่า แว่นตาวินเทจสายพันธุ์ปาริเซียนตามประกาศนี้ เป็นผลงานสร้างในประวัติศาสตร์ของ 'เอสซิลอร์' ที่ 'งดงาม' และ 'น่าจดจำ' อย่างยิ่ง ก่อนจะค่อย ๆ ถอนตัวจากการเป็นผู้ผลิตกรอบ มุ่งเน้นสู่การสร้างสรรค์นวัตกรรม 'เลนส์สมัยใหม่' อย่างเต็มตัวในระยะกาลต่อมา.
เจ้าคุณทิพย์ : เขียน
* อ่านเรื่องราวน่ารู้เกี่ยวกับศิลปะแว่นตาฝรั่งเศส ได้จากคอลัมน์ 'ปกิณกะแว่นตา บทที่ ๙ : ลามี่ (L'Amy) ประวัติศาสตร์หน้าหนึ่งในโลกแว่นตาฝรั่งเศส' และ 'ปกิณกะแว่นตา บทที่ ๒๕ : โมเรล (Morel) ผลงานเกษตรกรช่างฝีมือชาวฝรั่งเศส' ในเพจ : แว่นตา ของวินเทจ เจ้าคุณทิพย์
**หมายเหตุ : หากข้อเขียนนี้ จะอำนวยประโยชน์ให้เกิดแก่สังคมและสาธารณชน ผู้เขียนยินดีอย่างยิ่ง แต่หากนำไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ โปรดขออนุญาตก่อน
□■□■□■□■□
Vintage Les Lunettes Essilor
013 32 701
56 □ 19
145
Engraving and Oxidized Gold Metal Frame
Classic Round Trapezoid Model
Beautiful Burnt Sienna Brown Tinted Crystal Lenses
UV Protection 100\%
Handmade in the 1980's in Paris, France
มือสอง
'เอสซิลอร์' (Les Lunettes Essilor)
แว่นตาสายพันธุ์ปาริเซียนในตำนานแห่งทศวรรษที่ 1980's
ผลงานสร้างโดยช่างฝีมือชั้นครูชาวฝรั่งเศส
■ สภาพเทพ / เก่าเก็บ / ใหม่กริ๊บ
วัสดุทุกชิ้นส่วนออริจินัล เดิม ๆ 100\% ไม่เว้นแม้กระทั่งน็อตทุกตัว
ไม่มีชุบ ไม่มีเชื่อม ไม่มีซ่อม ไม่มีการดัดแปลงใด ๆ ทั้งสิ้น
องคาพยพทุกส่วนสมบูรณ์แบบ !
สิริมายุ (เก่าเก็บ) กว่า 30 ปี
■ กรอบ มุมแว่น คาน และ ก้านขา : งานทองเดินลาย - รมดำ (Engraving and Oxidized Gold) งดงาม คลาสสิค อิทธิพลจากศิลปะแนว 'อลังการศิลป์' (Art Deco) ฝีมือช่างประณีต วิจิตรบรรจงอย่างยิ่ง
■ ปลอกขา อะซีเทต ลายหินอ่อน (Marble Acetate) หรูหรา สง่างาม ทรงคุณค่า
ดีไซน์ตามขนบโมเดลคลาสสิค 'สี่เหลี่ยมคางหมู - มน' (Classic Round Trapezoid Model) หายาก สะท้อนอารมณ์วินเทจแห่งยุค '70s คลาสสิค สุนทรีย์ 'ติสท์ มีความเป็นตัวของตัวเอง
■ พิเศษที่สุด*** : เลนส์กระจกคริสตัลกันแดด 'สีน้ำตาล - ชา' (Beautiful Burnt Sienna Brown Tinted Crystal Lenses) คุณภาพสูง สว่าง ไม่ทึบ นุ่มนวล เย็นตา ไม่เปลี่ยนแปลงสีจริงในธรรมชาติ โฟกัสดีเยี่ยม !
สภาพเลนส์ซุปเปอร์นางฟ้า 99\%+ ป้องกันรังสี UV 100\% สวมใส่ได้ทั้งกลางวันและกลางคืน
ความกว้างโดยรวม 140 mm (ขนาดมาตรฐาน / Standard Size) ; ขนาดเลนส์ 56 mm ; ความสูงเลนส์ 46 mm ; ความยาวขา 145 mm
แว่นตาวินเทจแฮนด์เมดสายพันธุ์ปาริเซียน ทศวรรษ 1980's ผลงานที่ต้องจารึกไว้ในตำนานของ 'เอสซิลอร์' ยักษ์ใหญ่จากแดนน้ำหอม !
ราคา แป้งร่ำ ดินสอพอง แบบลูกผู้ชายชื่อ ไอ้แผน เหมียน...เดิม
2,300 บาท (ราคาเน็ต / Net Price)
พร้อมกล่อง ฮาร์ดเคส และผ้าเช็ดแว่น ไมโครไฟเบอร์ อีกต่างหาก !
สนใจติดต่อ : เจ้าคุณทิพย์ โทร 085 0200 633
หรือ Line ID : chaokuntip
***โปรดกดถูกใจ ติดตาม และกดแชร์ เพจ : แว่นตา ของวินเทจ เจ้าคุณทิพย์
ขอบคุณมากครับ
.
.
'เอสซิลอร์'
(Les Lunettes Essilor)
แว่นตาสายพันธุ์ปาริเซียนในตำนานทศวรรษที่ 1970 - 80's
กำเนิดจากรากฐานเดิมของ 'โซลอามอร์' (Sol Amor ; ชื่อเดิมระหว่าง ค.ศ.1931 - 1945 คืิอ Lissac) แว่นตาแฮนด์คราฟท์คุณภาพสูงของฝรั่งเศส ที่ผลิตขึ้นครั้งแรกเมื่อ ค.ศ.1946 โดยการริเริ่มของ 'จอร์จส์ ลิสแซค' (Georges Lissac AD1897 - 1969) อดีตช่างและศิลปินนักออกแบบแว่นตา ผู้เป็นเจ้าของกิจการร้านแว่นตาครบวงจร 'ลิสแซค บราเธอร์ส' (Lissac Brothers : 1931) ในกรุงปารีส
แรกเริ่ม 'โซลอามอร์' เป็นที่นิยมในหมู่นักแสดง คนดัง ชนชั้นนำของฝรั่งเศส แล้วจึงแพร่กระจายออกไป กระทั่งได้รับความนิยมกว้างขวาง
'ลิสแซค บราเธอร์ส' ไม่เพียงผลิตกรอบแว่นตาแบบโกลด์ฟิลด์ (Gold Filled Frame) ในนาม 'โซลอามอร์' (Sol Amor) และ 'อามอร์' (Amor) ที่มีราคาแพงเท่านั้น แต่ยังคิดค้นวิธีผลิตกรอบแว่นตาพลาสติคคุณภาพสูง เพื่อรองรับต่อการขาดแคลนวัตถุดิบในฝรั่งเศสหลังภาวะสงครามโลกครั้งที่สอง ก่อให้เกิดกระแสนิยมคลั่งไคล้ 'กรอบแว่นตาพลาสติกของฝรั่งเศส' ที่สืบเนื่องมาถึงปัจจุบัน
บุคคลมีชื่อเสียงยุคนั้นที่สวมใส่แว่นตาสกุล 'โซลอามอร์' ได้แก่ ประธานาธิบดี จอห์น เอฟ เคนเนดี, ฌอง-ลัค โกดาร์ด, ไมเคิล มอร์แกน, ฌอง-ปอล เบลมอนโด (สวมใส่ในภาพยนตร์เรื่อง A Bout de souffle) ฯลฯ
ระหว่างทศวรรษ 1950's - '60s แว่นตา 'โซลอามอร์' มากกว่า 15 ล้านคู่ จำหน่ายในฝรั่งเศส ยุโรป สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น นับเป็นหนึ่งในผู้ผลิตแว่นตารายใหญ่เช่นเดียวกับ 'ลามี' (L'amy) และ 'โมเรล' (Morel) ในห้วงเวลาที่ดีที่สุดช่วงหนึ่งของอุตสาหกรรมแว่นตาฝรั่งเศสในศตวรรษที่ 20
แต่ทว่าหลังการเสียชีวิตของ 'จอร์จส์ ลิสแซค' ไม่กี่ปี ประวัติศาสตร์หน้าแรกของแว่นตา 'โซลอามอร์' ก็ปิดฉากลง
เมื่อสองผู้ผลิตในเครือ 'ลิสแซคกรู๊ป' (Two Industrial Parts of Lissac Group) คือ 'ซิล' (Sil) และ 'ลอร์' (Lor) รวมตัวกันให้กำเนิดแว่นตาที่รู้จักดีในเวลาต่อมาว่า 'ซิลอร์' (Silor) เพื่อเปิดช่องทางการตลาดและก้าวให้ทันแนวโน้มของธุรกิจแว่นตาสมัยใหม่
ถัดจากนั้นในปี 1972 นาม 'เอสซิลอร์' (Les Lunettes Essilor) จึงถูกกล่าวขาน !
จากการควบรวมกิจการอีกครั้งระหว่าง 'ซิลอร์' กับอดีตคู่ปรปักษ์ทางการค้า คือ 'เอสเซล' (Essel : 1849 -1972) ผู้เป็นต้นแบบคิดค้นกรอบแว่นตาอมตะแบบ 'ไนเลอร์' (Nylor Style) หรือที่รู้จักกันดีว่า 'กรอบครึ่งเดียว - เลนส์เซาะร่อง - ร้อยเอ็น' (Half Rimless Nylor Model)
อุบัติขึ้นเป็น 'เอสซิลอร์' (Essel + Silor = Essilor)
แบรนด์แห่งแว่นตา เลนส์ และนวัตกรรมเกี่ยวกับเทคโนโลยีแว่นตา ยักษ์ใหญ่อันดับ 3 ของโลก
บันทึกไว้ ณ บรรทัดนี้ว่า 'เอสซิลอร์' (สืบเนื่องจาก 'เอสเซล') คือ ผู้ผลิต 'แวริลักซ์' (Varilux) เลนส์โพรเกรสซีฟ เพื่อแก้ไขวิสัยทัศน์ระยะใกล้และไกล สำเร็จเป็นครั้งแรกของโลก !
รวมทั้งเป็นผู้ผลิต เลนส์ปรับแสง (Transitions Lens) คุณภาพสูง ตลอดจน 'แอร์แวร์' (Airwear Polycabornate Lens) เลนส์โพลีคาร์บอเนตที่ไม่มีวันแตกหัก น้ำหนักเบาพิเศษ
แน่นอนละว่า แว่นตาวินเทจสายพันธุ์ปาริเซียนตามประกาศนี้ เป็นผลงานสร้างในประวัติศาสตร์ของ 'เอสซิลอร์' ที่ 'งดงาม' และ 'น่าจดจำ' อย่างยิ่ง ก่อนจะค่อย ๆ ถอนตัวจากการเป็นผู้ผลิตกรอบ มุ่งเน้นสู่การสร้างสรรค์นวัตกรรม 'เลนส์สมัยใหม่' อย่างเต็มตัวในระยะกาลต่อมา.
เจ้าคุณทิพย์ : เขียน
* อ่านเรื่องราวน่ารู้เกี่ยวกับศิลปะแว่นตาฝรั่งเศส ได้จากคอลัมน์ 'ปกิณกะแว่นตา บทที่ ๙ : ลามี่ (L'Amy) ประวัติศาสตร์หน้าหนึ่งในโลกแว่นตาฝรั่งเศส' และ 'ปกิณกะแว่นตา บทที่ ๒๕ : โมเรล (Morel) ผลงานเกษตรกรช่างฝีมือชาวฝรั่งเศส' ในเพจ : แว่นตา ของวินเทจ เจ้าคุณทิพย์
**หมายเหตุ : หากข้อเขียนนี้ จะอำนวยประโยชน์ให้เกิดแก่สังคมและสาธารณชน ผู้เขียนยินดีอย่างยิ่ง แต่หากนำไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ โปรดขออนุญาตก่อน
□■□■□■□■□
Vintage Les Lunettes Essilor
013 32 701
56 □ 19
145
Engraving and Oxidized Gold Metal Frame
Classic Round Trapezoid Model
Beautiful Burnt Sienna Brown Tinted Crystal Lenses
UV Protection 100\%
Handmade in the 1980's in Paris, France
มือสอง
'เอสซิลอร์' (Les Lunettes Essilor)
แว่นตาสายพันธุ์ปาริเซียนในตำนานแห่งทศวรรษที่ 1980's
ผลงานสร้างโดยช่างฝีมือชั้นครูชาวฝรั่งเศส
■ สภาพเทพ / เก่าเก็บ / ใหม่กริ๊บ
วัสดุทุกชิ้นส่วนออริจินัล เดิม ๆ 100\% ไม่เว้นแม้กระทั่งน็อตทุกตัว
ไม่มีชุบ ไม่มีเชื่อม ไม่มีซ่อม ไม่มีการดัดแปลงใด ๆ ทั้งสิ้น
องคาพยพทุกส่วนสมบูรณ์แบบ !
สิริมายุ (เก่าเก็บ) กว่า 30 ปี
■ กรอบ มุมแว่น คาน และ ก้านขา : งานทองเดินลาย - รมดำ (Engraving and Oxidized Gold) งดงาม คลาสสิค อิทธิพลจากศิลปะแนว 'อลังการศิลป์' (Art Deco) ฝีมือช่างประณีต วิจิตรบรรจงอย่างยิ่ง
■ ปลอกขา อะซีเทต ลายหินอ่อน (Marble Acetate) หรูหรา สง่างาม ทรงคุณค่า
ดีไซน์ตามขนบโมเดลคลาสสิค 'สี่เหลี่ยมคางหมู - มน' (Classic Round Trapezoid Model) หายาก สะท้อนอารมณ์วินเทจแห่งยุค '70s คลาสสิค สุนทรีย์ 'ติสท์ มีความเป็นตัวของตัวเอง
■ พิเศษที่สุด*** : เลนส์กระจกคริสตัลกันแดด 'สีน้ำตาล - ชา' (Beautiful Burnt Sienna Brown Tinted Crystal Lenses) คุณภาพสูง สว่าง ไม่ทึบ นุ่มนวล เย็นตา ไม่เปลี่ยนแปลงสีจริงในธรรมชาติ โฟกัสดีเยี่ยม !
สภาพเลนส์ซุปเปอร์นางฟ้า 99\%+ ป้องกันรังสี UV 100\% สวมใส่ได้ทั้งกลางวันและกลางคืน
ความกว้างโดยรวม 140 mm (ขนาดมาตรฐาน / Standard Size) ; ขนาดเลนส์ 56 mm ; ความสูงเลนส์ 46 mm ; ความยาวขา 145 mm
แว่นตาวินเทจแฮนด์เมดสายพันธุ์ปาริเซียน ทศวรรษ 1980's ผลงานที่ต้องจารึกไว้ในตำนานของ 'เอสซิลอร์' ยักษ์ใหญ่จากแดนน้ำหอม !
ราคา แป้งร่ำ ดินสอพอง แบบลูกผู้ชายชื่อ ไอ้แผน เหมียน...เดิม
2,300 บาท (ราคาเน็ต / Net Price)
พร้อมกล่อง ฮาร์ดเคส และผ้าเช็ดแว่น ไมโครไฟเบอร์ อีกต่างหาก !
สนใจติดต่อ : เจ้าคุณทิพย์ โทร 085 0200 633
หรือ Line ID : chaokuntip
***โปรดกดถูกใจ ติดตาม และกดแชร์ เพจ : แว่นตา ของวินเทจ เจ้าคุณทิพย์
ขอบคุณมากครับ
แท็กค้นหาสินค้าที่เกี่ยวข้อง
แก้ไขล่าสุดเมื่อ : 19/4/65สร้างเมื่อ : 28/4/63เลขที่ประกาศ :oGRVX7E7lX






