รถบรรทุก CNG เริ่มกลับมาเป็นที่ต้องการของตลาดอีกครั้งในช่วงกลางปี 2564 ที่ผ่านมาที่ราคาน้ำมันนั้นปรับขึ้นเป็นระยะๆ ทั้งนี้ราคาน้ำมันโดยปกติจะอ้างอิงตามราคาตลาดโลก ซึ่งช่วงที่ผ่านมานั้นราคาน้ำมันโลกมีการปรับขึ้นอยู่โดยตลอด ส่วนองค์ประกอบอื่นๆในประเทศ?ไทยนั้นไม่ว่าจะเป็น เงินสนับสนุนกองทุน หรือ ภาษีสรรพสามิต ก็เป็นองค์ประกอบของราคาเช่นเดียวกัน
เมื่อไรที่ราคาน้ำมันโดยเฉพาะกลุ่มดีเซล ถ้ามีการปรับราคาขึ้น ขะส่งผลโดยตรงต่อผู้ประกอบการณ์ขนส่งโดยตรง เพราะในประเทศไทยนั้นยังต้องพึ่งระบบการขนส่งทางถนนเป็นหลัก เพราะยังไม่มีระบบรางที่ดีพอจะทำให้การขนส่งมีประสิทธิภาพมากพอ
ฉะนั้นเมื่อไรปรับขึ้นจะส่งผลต่อต้นทุนการขนส่งแน่นอน และเมื่อผู้ประกอบการประสบปัญหาสิ่งที่ตามมาคือราคาขายสินค้าต่างๆก็จะถูกปรับขึ้นตามไปด้วยไม่เว้นแต่สินค้าอุปโภค หรือ สินค้ากลุ่มการเกษตร ทำให้ราคาน้ำมันดีเซลค่อนข้างอ่อนไหวต่อผู้ประกอบการณ์เป็นอย่างมาก
เรามาลองไล่ย้อนทบทวนความรู้เกี่ยวกับ รถบรรทุก CNG กันครับว่ามีที่มากันอย่างไรบ้าง และ ณ ปี2021 นี้ ใครคุ้มค่ากว่ากันระหว่างดีเซลเดิมๆ หรือ CNG
CNG กับ NGV ต่างกันอย่างไร
ก่อนอื่นเรามารู้จักชื่อเต็มของ CNG และ NGV กันก่อนครับ
CNG ย่อมาจาก Compressed Natural Gas ซึ่งแปลตรงตัวว่า ก๊าซธรรมชาติบีบอัด โดยในลักษณะจริงๆคือ ก๊าซธรรมชาติที่มีส่วนประกอบของ มีเทน เป็นส่วนประกอบหลักในการเผาไหม้แล้วบีบอัดเข้าไปในถังบรรจุที่ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะ ซึ่งสถานะของสสารในที่นี้จะมีลักษณะเป็นก๊าซ ถ้าเกิดการรั่วไหลออกไปจะกระจายออกไปตามอากาศอย่างรวดเร็ว ไม่มีการไหลลุกลามบนพื้นราบครับ
NGV ย่อมาจาก Natural Gas Vehicle ซึ่งหมายถึง ยานพาหนะที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง หรือบางทีจะเรียกว่า Gas Powered Vehicle ในภาษาอังกฤษ แต่ในประเทศไทยนั้นถูกตั้งเป็นชื่อตัวแทนของ ก๊าซเชื้อเพลิงให้รู้สึกน่าใช้งานมากขึ้น ฟังชื่อแล้วดูอันตรายน้อยลง เพื่อให้คนใช้รถในยุคนั้นกล้าหันมาใช้เชื้อเพลิงประเภทนี้มากขึ้น ซึ่งเนื้อในจริงๆคือเชื้อเพลิงประเภทเดียวกันกับ CNG นั่นเอง ทั้งหมดนี้ทำให้คำแปลตัวย่อในประเทศไทยจึงกลายเป็นคำว่า Natural Gas for Vehicle หรือ ก๊าซธรรมชาติสำหรับยานพาหนะนั่นเอง
CNG กับ LPG ต่าง กัน อย่างไร
LPG ย่อมาจาก Liquefied Petroleum Gas หรือ หมายถึง ก๊าซปิโตรเลียมเหลว ซึ่งเป็นผลผลิตจากการแยกก๊าซธรรมชาติหรือการกลั่นน้ำมันดิบ โดยปกติแล้วจะนำไปใช้เป็นก๊าซหุงต้ม เชื้อเพลิงสำหรับรถยนต์ รวมถึงการนำไปใช้เป็นเชื้อเพลิงในอุตสาหกรรมต่างๆ โดย LPG มีสถานะเป็นของเหลว สามารถรั่วไหล กระจายตามพื้นและติดไฟได้
ลักษณะถังของ LPG นั้นจะเป็นถังสีดำมีสองแบบคือ ทรงแคปซูล และ ทรงโดนัท โดยใส่ไว้ในหลุมยางอะไหล่ และต้องมีการตรวจสภาพเป็นประจำ
![](https://blog.truck2hand.com/wp-content/uploads/2022/05/image-23.png)
ส่วน CNG อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้นคือมีสถานะเป็นก๊าซ ที่อัดในถังอัดแรงดันสูงสีขาว สีครีม ถังจะหนาและมีน้ำหนักมาก จำเป็นต้องตรวจสถาพเป็นประจำเช่นกัน
![ถัง CNG](https://blog.truck2hand.com/wp-content/uploads/2021/11/image-39.png)
CNG ผลิตมาจากอะไร
ก๊าซธรรมชาติในประเทศไทยนั้นมีการนำมาใช้ตั้งแต่ปี 2524 โดยมีจุดประสงค์เพื่อการผลิตไฟฟ้า และ ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่ง ณ ปี พ.ศ. นั้นถ่านหินและน้ำมันเตามีมูลค่าแพง เนื่องจากต้องนำเข้าจากต่างประเทศเท่านั้น ประกอบกับความผันผวนของราคาน้ำมันโลก ทำให้ประเทศไทยต้องศึกษาและนำก๊าซธรรมชาติมาใช้อย่างจริงจัง
ในส่วนของการเผาไหม้นั้นก๊าซธรรมชาตินั้นเผาไหม้ได้ดีกว่าเชื้อเพลิงชนิดอื่น และที่สำคัญคือไม่มีกากเชื้อเพลิงหลังการเผาไหม้ ส่วนการขนส่งก็ใช้การขนส่งทางท่อเพื่อลดค่าขนส่งและปลอดภัยกว่าการใช้รถขนส่งอีกด้วย แต่การวางท่อส่งก็เป็นเรื่องที่ต้องลงทุนสูงและต้องวางแผนใช้ในระยะยาว
อย่างไรก็ตามไม่ใช่แค่การขุดก๊าซธรรมชาติขึ้นมาแล้วเราจะได้ CNG ทันที เนื่องจากก๊าซธรรมชาติจะผสมไปด้วยสารหลายชนิด ซึ่งสารที่จำเป็ต้องใช้ในการผลิต CNG เพื่อนำไปใช้กับรถยนต์ คือ มีเทน ส่วนสารตั้งต้นอื่นๆ เช่น โพรเพน และ บิวเทน จะนำไปใช้กับก๊าซหุงต้ม ส่วนอีเธน ก็เป็นส่วนประกอบสำคัญของอุตสาหกรรมปิโตรเคมี
>> สินค้า Truck2Hand ฝากขาย CNG ทั้งหมด <<
สถานการณ์ของ รถบรรทุก CNG ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน
เมือ่ดูสถานการณ์ราคาน้ำมันดีเซลในไทยและทั่วโลก ช่วงปี พ.ศ. 2564 นี้ถือเป็นขาขึ้นของราคาน้ำมันโลก เช่นเดียวกับเมื่อช่วงปี 2549 ที่ รถบรรทุกติดแก๊ส เริ่มเป็นที่แพร่หลายในประเทศไทยมาก จนหลายๆค่ายรถยนต์ต้องผลิตรถ CNG แท้จากโรงงานออกมา เพื่อตอบโจทย์ตลาดในช่วงนั้น จากรูปที่แนบมาจะเห็นได้ว่าทั่วโลกมีการค้นหาคำว่า CNG มากเป็นพิเศษในช่วงปี 2007-2008 ซึ่งเริ่มมีวิกฤตราคาน้ำมัน และยังคงมีการค้นหาเรื่อยจนถึงช่วงปี 2014-2015
![Trend CNG](https://blog.truck2hand.com/wp-content/uploads/2021/11/image-40.png)
ส่วนในประเทศไทยนั้นเริ่มมีการค้นหาคำว่า CNG มากขึ้นในช่วง 2009 เป็นต้นมาจนถึงช่วงปี 2014 ที่การค้นหา CNG น้อยลง สอดคล้องกับราคาน้ำมันที่เริ่มกลับมาในราคาที่ถูกลงด้วย
![Trend CNG](https://blog.truck2hand.com/wp-content/uploads/2021/11/image-41.png)
นอกจากนี้ธุรกิจที่แพร่หลายมากในช่วงนั้นคือการลงเครื่อง CNG ให้กลุ่มรถยนต์หลากหลายประเภท โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจที่ต้องให้ความสำคัญกับต้นทุนเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็น รถบรรทุก รถกระบะ รวมไปถึงรถแท๊กซี่อีกด้วย เพราะทำราคาได้ถูกกว่าน้ำมันดีเซลหรือเบนซิน
ซึ่งทำให้รถ CNG ในตลาดบ้านเรามีรถสองประเภทคือ CNG 100% กับ รถสองระบบ โดยรถ CNG 100% ส่วนใหญ่ผลิตจากโรงงานโดยตรง ส่วน รถสองระบบ ที่มีสวิทช์กดเปลี่ยนระบบนั้นมีทั้งที่เป็นแบบดัดแปลงจากร้านภายนอก และ มีรถยนต์นั่งบางรุ่นที่เป็นสองระบบเช่นกัน
รถบรรทุก CNG หรือ รถบรรทุกเครื่องดีเซลเดิมๆ
จากที่เห็นผ่านประวัติศาสตร์มา เหตุผลหลักในการเลือกใช้รถบรรทุกติดแก๊ส ก็คือ ปัจจัยเรื่องราคาน้ำมัน เมื่อไรที่น้ำมันขาขึ้นอย่างน่าใจหาย ก็จะเป็นข้อได้เปรียบทันทีสำหรับรถที่ใช้ CNG ในการขับเคลื่อน แต่พอเวลาผ่านไปเมื่อราคาน้ำมันกลับมาสู่ภาวะปกติ ที่ผู้ประกอบการณ์รับต้นทุนได้ ก็จะหันมาใช้รถดีเซลเดิมๆกันมากกว่า จนในช่วงที่ผ่านมารถ CNG นั้นแทบจะหายไปจากตลาด รวมไปถึงปั๊มที่ใช้เติม CNG ด้วยเช่นกันที่หายสาบสูญตามกาลเวลา
![รถบรรทุก CNG](https://blog.truck2hand.com/wp-content/uploads/2021/11/IMG_20210820_135558.jpg)
จนมาถึง ปี พ.ศ. ปัจจุบันนี้ ที่น้ำมันกลับมาแพงกระฉูดอีกครั้ง CNG ก็เลยกลับมาเป็นที่น่าสนใจของตลาดอีกครั้ง แต่คงไม่ได้บูมแบบรอบแรกแล้วเพราะ ทุกคนเห็นภาพมาก่อนแล้วว่า ถึงแม้จะช่วยให้ต้นทุนลดลงได้แต่ก็แค่ชั่วคราวเท่านั้น เมื่อเวลาที่ราคาน้ำมันกลับมาภาะปกติ CNG ก็จะถูกเมินอีกครั้งนึง
แล้ว CNG คุ้มจริงๆหรือไม่นั้น ต้องเทียบกันที่ต้นทุนต่อระยะทางที่วิ่งได้ด้วยเช่นกัน ถึงแม้ว่า อัตราการเผาผลาญของ CNG จะดีก็ตาม แต่อย่างไรก็ตามเมื่อเทียบกับรถเครื่องดีเซลแล้ว ยังเทียบกันได้ยากในส่วนของระยะทางที่วิ่งได้เมื่อเติมเต็มถัง
นอกจากนี้การเติม CNG สักครั้งนึงนั้นใช้เวลาเติมนานมาก เราจึงเห็นภาพที่รถต่อแถวเข้าคิวเติมแก็สยาวๆอยู่อย่างชินตา ในแง่ของการขนส่งก็จะเสียเวลาในการขนส่ง
ส่วนในระยะยาวนั้นเครื่องยนต์ CNG อายุการใช้งานก็จะเสื่อมสภาพไวกว่าเครื่องดีเซลอีกด้วย หมายความว่ารถบรรทุกดีเซลนั้นอายุการใช้งานยาวนานกว่าเครื่องยนต์แก็ส อย่างไรก็ตามตรงนี้เป็นข้อสมมติฐานและความเป็นไปได้เท่านั้น
การสลับเครื่องเป็น รถบรรทุก CNG คือ ทางออกหรือไม่
แนวความคิดนี้ออกมาในช่วงที่ราคา ดีเซล ถูกลงหลังจากผ่านวิกฤตไปแล้ว ทำให้มีการตามหาเครื่องดีเซลที่หลายๆคนเปลี่ยนออไปในช่วงวิกฤต รวมไปถึงตามหาเครื่องยนต์จากตลาดมือสองอย่างเซียงกง เพื่อนำมาเปลี่ยนรถบรรทุกของตนเองให้กลับมาเป็นระบบดีเซล
ซึ่งค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนทั้งหมดนั้นจะแพงที่ค่าเครื่องยนต์เป็นหลัก ซึ่งราคาและสภาพก็จะต่างกันออกไปเท่าที่ตามหาได้ ตกประมาณ 150,000 – 250,000 บาท ยังไม่รวมอุปกรณ์อื่นๆ และค่าแรงในการทำ ซึ่งเบ็ดเสร็จแล้วก็เกือบห้าแสนเลยทีเดียว
ดังนั้นแนวคิดเรื่องการเปลี่ยนเครื่องจึงเป้นอีกแนวคิดที่ทำได้ แต่จะทำจริงหรือไม่ควรคำนึงถึงเงินลงทุนก้อนนี้ด้วย
การใช้อะไหล่ก็เช่นกัน กรณีเปลี่ยน แก็สเป็นดีเซล เรายังพอหาอะไหล่แท้มาเปลี่ยนได้ แต่กรณีที่จะเปลี่ยน ดีเซลเป็นแก็สบอกได้เลยว่าหาอะไหล่แท้คุณภาพดีได้ยากจริงๆ ทางออกคือการเทียบอะไหล่ เพื่อให้การดัดแปลงสมบูรณ์และได้ราคาที่ถูกลงด้วย
![HINO FM2 CNG 360 แรงม้า](https://static.truck2hand.com/cdn-cgi/image/fit=contain,w=1530,h=860.625,f=auto/https://static.truck2hand.com/public/upload/item/wDpPa4narQ/34ab8319-d259-43cc-8ca3-c919b53244d4.jpg)
สรุป
โดยสรุปแล้วการเปลี่ยนจะวิธีไหน ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ รถบรรทุกมือสอง ที่ติด CNG มาใช้งานหรือการสลับเครื่องยนต์ล้วนแล้วแต่เป็นการลงทุนทั้งนั้น ดังนั้นการคิดลงทุนควรคิดถึงผลในระยะยาว เรายังเชื่อว่ารัฐบาลต้องคิดหาวิธีดึงราคาดีเซลไม่ให้สูงไปกว่านี้ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบในระยะยาวต่อเศรษฐกิจ
ดังนั้นเรายังคิดว่า CNG ก็เป็นทางออกชั่วคราวเท่านั้นสำหรับวิกฤตเช่นนี้ แต่อย่างไรก็ตามสถานการณ์นี้จะยาวนานหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับการที่จะดึงราคาดีเซลให้ต่ำลงมาจนถึงจุดที่ผู้ประกอบการณ์สามารถดำเนินธุรกิจได้ตามปกติ แต่ถ้าสถานการณ์ยืดเยื้อออกไป รถบรรทุก CNG ก็จะผงาดกลับมาเป็นที่ต้องการของตลาดอีกได้เช่นกัน